รัฐบาลรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นพื้นที่แห้งแล้งที่สุดในประเทศ เพิ่มโทษปรับผู้กระทำผิดฐานขโมยน้ำให้หนักขึ้น 30 เท่า ในวันนี้ เพื่อเน้นให้เห็นถึงปัญหาขาดแคลนน้ำ ขณะที่แม่น้ำเมอร์เรย์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญ มีปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง
ปัญหาขาดแคลนน้ำของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ทำให้เจ้าหน้าที่มีสิทธิปันส่วนน้ำเพื่อการชลประทาน และจำกัดวัน รวมทั้งปริมาณน้ำที่ประชาชนสามารถรดน้ำต้นในสวน หรือสนามหญ้าได้ ซึ่งแม้จะดำเนินมาตรการเหล่านี้ แต่ก้นทะเลสาบตามพื้นที่อุทยานแห่งชาติหลายแห่งยังคงแห้งขอด
นายไมค์ แรนน์ มุขมนตรีรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ประกาศว่า หากผู้ใดนำน้ำจากแม่น้ำเมอร์เรย์ ไปใช้อย่างผิดกฎหมาย จะถือว่าเป็นการก่ออาชญากรรม และมีการเพิ่มโทษปรับสูงสุดให้หนักขึ้นร้อยละ 3,000 คือ จากเดิม 70,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.9 ล้านบาท) ขึ้นมาเป็น 2.2 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 62 ล้านบาท) สำหรับผู้กระทำผิดที่เป็นบริษัท ส่วนผู้กระทำผิดรายบุคคลจะมีโทษปรับหนักเพิ่มขึ้นร้อยละ 1,900 คือ จากเดิม 35,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 996,200 บาท) มาเป็น 700,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 19.9 ล้านบาท)
การกำหนดค่าปรับสูงลิ่วเช่นนี้ เพื่อหยุดยั้งผู้ขโมยน้ำจากเขื่อน และคลองชลประทาน หรือการโกงมาตรวัดน้ำ แม้จะมีผลบังคับใช้เฉพาะในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย แต่นายแรนน์ ขอให้มุขมนตรีรัฐที่อยู่เหนือขึ้นไปเพิ่มบทลงโทษผู้ขโมยน้ำด้วยเช่นกัน
ปัญหาขาดแคลนน้ำของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ทำให้เจ้าหน้าที่มีสิทธิปันส่วนน้ำเพื่อการชลประทาน และจำกัดวัน รวมทั้งปริมาณน้ำที่ประชาชนสามารถรดน้ำต้นในสวน หรือสนามหญ้าได้ ซึ่งแม้จะดำเนินมาตรการเหล่านี้ แต่ก้นทะเลสาบตามพื้นที่อุทยานแห่งชาติหลายแห่งยังคงแห้งขอด
นายไมค์ แรนน์ มุขมนตรีรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ประกาศว่า หากผู้ใดนำน้ำจากแม่น้ำเมอร์เรย์ ไปใช้อย่างผิดกฎหมาย จะถือว่าเป็นการก่ออาชญากรรม และมีการเพิ่มโทษปรับสูงสุดให้หนักขึ้นร้อยละ 3,000 คือ จากเดิม 70,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.9 ล้านบาท) ขึ้นมาเป็น 2.2 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 62 ล้านบาท) สำหรับผู้กระทำผิดที่เป็นบริษัท ส่วนผู้กระทำผิดรายบุคคลจะมีโทษปรับหนักเพิ่มขึ้นร้อยละ 1,900 คือ จากเดิม 35,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 996,200 บาท) มาเป็น 700,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 19.9 ล้านบาท)
การกำหนดค่าปรับสูงลิ่วเช่นนี้ เพื่อหยุดยั้งผู้ขโมยน้ำจากเขื่อน และคลองชลประทาน หรือการโกงมาตรวัดน้ำ แม้จะมีผลบังคับใช้เฉพาะในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย แต่นายแรนน์ ขอให้มุขมนตรีรัฐที่อยู่เหนือขึ้นไปเพิ่มบทลงโทษผู้ขโมยน้ำด้วยเช่นกัน
