นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แถลงว่า ที่ประชุม กกต.มีมติให้ขยายเวลาในการสืบสวนสอบสวนกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท และการใช้เงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ที่ผิดวัตถุประสงค์ ของพรรคประชาธิปัตย์ ไปอีก 30 วัน เนื่องจากที่ประชุม กกต.เห็นว่า มีรายละเอียดเรื่องของการสอบสวนพยานบุคคล และเอกสารจากกรมสรรพากรยังไม่ครบถ้วน จึงให้อนุกรรมการไต่สวนไปดำเนินการดังกล่าวให้เรียบร้อย พร้อมกันนี้เตรียมเชิญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น และนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด มาสอบสวนเพิ่มเติมด้วย พร้อมกันนี้ ปฏิเสธการทำงานของ กกต.ไม่ได้มีวาระซ่อนเร้นอะไร
ส่วนสำนวน 44 ส.ส.ถือครองหุ้นในกิจการสื่อ และบริษัทที่ได้รับสัมปทานรัฐ นายสุทธิพล กล่าวว่า เลขานุการอนุกรรมการไต่สวน ได้ปรับปรุงเอกสารนำเสนอต่อที่ประชุม กกต.แล้ว โดยที่ประชุม กกต.นัดให้เลขานุการอนุกรรมการไต่สวน เข้าชี้แจงสำนวนดังกล่าวต่อที่ประชุม กกต.ในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่ กกต.จะนัดลงมติเรื่องดังกล่าวพร้อมกันในวันที่ 2 กันยายน
ส่วนสำนวน 44 ส.ส.ถือครองหุ้นในกิจการสื่อ และบริษัทที่ได้รับสัมปทานรัฐ นายสุทธิพล กล่าวว่า เลขานุการอนุกรรมการไต่สวน ได้ปรับปรุงเอกสารนำเสนอต่อที่ประชุม กกต.แล้ว โดยที่ประชุม กกต.นัดให้เลขานุการอนุกรรมการไต่สวน เข้าชี้แจงสำนวนดังกล่าวต่อที่ประชุม กกต.ในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่ กกต.จะนัดลงมติเรื่องดังกล่าวพร้อมกันในวันที่ 2 กันยายน