นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับกรมปศุสัตว์ สำนักเทศกิจ นายสัตวแพทย์ และกลุ่มควาญช้าง จ.สุรินทร์ เพื่อหามาตรการแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนในระยะยาวว่า ที่ประชุมได้กำหนดมาตรการเบื้องต้นโดยการนำมาตรการจับ ยึด ปรับ มาใช้อย่างจริงจังในคืนนี้ (19 ส.ค.) กทม.จะร่วมกับกรมปศุสัตว์บุกจับช้างที่ยังเร่ร่อนอยู่ในพื้นที่ กทม. หากควาญช้างไม่มีหลักฐานแสดงรูปพรรณช้าง เจ้าหน้าที่จะดำเนินการยึดอายัดเป็นเวลา 30 วัน และดำเนินการเปรียบเทียบปรับโทษสูงสุด 10,000 บาท เพื่อป้องกันไม่ให้ควาญนำช้างออกหากินต่อไป มาตรการนี้จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าช้างจะหมดไปจากพื้นที่ กทม.
ทั้งนี้ ปัจจุบันยังเหลือช้างเร่ร่อนใน กทม. จำนวน 20 เชือก จากเดิมที่มีกว่า 200 เชือก ส่วนพื้นที่ในการรองรับช้างที่จับยึดไปนั้นได้เตรียมที่พักช้างไว้ที่ จ.กาญจนบุรี เนื้อที่ 130 ไร่ นอกจากนี้ยังได้ประสานไปที่องค์การบริหารส่วนตำบล จ.สุรินทร์ และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) เพื่อขอเช่าพื้นที่ 3,000 ไร่ จัดทำเป็นโฮมสเตย์สำหรับช้างและปลูกพืชอาหารช้างด้วย เพื่อรองรับช้างและกลุ่มควาญช้าง จ.สุรินทร์ จำนวน 36 เชือก หลังจากแจ้งความประสงค์ที่จะเข้าโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่บ้านเกิดและเลิกนำช้างเข้ามาเร่ร่อนในกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ ปัจจุบันยังเหลือช้างเร่ร่อนใน กทม. จำนวน 20 เชือก จากเดิมที่มีกว่า 200 เชือก ส่วนพื้นที่ในการรองรับช้างที่จับยึดไปนั้นได้เตรียมที่พักช้างไว้ที่ จ.กาญจนบุรี เนื้อที่ 130 ไร่ นอกจากนี้ยังได้ประสานไปที่องค์การบริหารส่วนตำบล จ.สุรินทร์ และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) เพื่อขอเช่าพื้นที่ 3,000 ไร่ จัดทำเป็นโฮมสเตย์สำหรับช้างและปลูกพืชอาหารช้างด้วย เพื่อรองรับช้างและกลุ่มควาญช้าง จ.สุรินทร์ จำนวน 36 เชือก หลังจากแจ้งความประสงค์ที่จะเข้าโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่บ้านเกิดและเลิกนำช้างเข้ามาเร่ร่อนในกรุงเทพฯ