นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แถลงว่า ที่ประชุม กกต.มีมติให้ขยายเวลาการสืบสวนสอบสวนกรณี 44 ส.ส.ถือครองหุ้นในบริษัทที่ได้รับสัมปทานรัฐไปอีก 7 วัน เนื่องจากภายหลังการชี้แจงของอนุกรรมการไต่สวนได้เกิดคำถามมากมายในที่ประชุม ประกอบกับอนุกรรมการไต่สวนได้ชี้แจงว่า มีเอกสารเป็นจำนวนมาก โดยยอมรับว่ามีบางประเด็นที่ยังคลาดเคลื่อนอยู่
ทั้งนี้ กกต.จึงมีมติให้ขยายเวลาเพื่อให้เลขาอนุกรรมการไต่สวนไปจัดกลุ่มหุ้น ว่าหุ้นกลุ่มใดเข้าข่ายต้องห้าม กลุ่มใดไม่เข้าข่ายต้องห้าม ตามที่ กกต.ได้เคยวินิจฉัยกรณี 16 ส.ว. และ 13 ส.ส.ประชาธิปัตย์ให้ขาดสมาชิกภาพไปก่อนหน้านี้ เพราะหากเอกสารไม่ชัดเจนจะส่งผลต่อการวินิจฉัยได้ จากนั้นให้นำสำนนวนมาเสนอต่อนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.อีกครั้งในวันที่ 25 สิงหาคม พร้อมปฏิเสธการขยายเวลาดังกล่าวไม่ได้เป็นการยื้อเวลา
ส่วนสำนวนการวินิจฉัยกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ นายสุทธิพล กล่าวว่า ประธาน กกต.ได้รับสำนวนจากคณะอนุกรรมการไต่สวนแล้ว
ทั้งนี้ กกต.จึงมีมติให้ขยายเวลาเพื่อให้เลขาอนุกรรมการไต่สวนไปจัดกลุ่มหุ้น ว่าหุ้นกลุ่มใดเข้าข่ายต้องห้าม กลุ่มใดไม่เข้าข่ายต้องห้าม ตามที่ กกต.ได้เคยวินิจฉัยกรณี 16 ส.ว. และ 13 ส.ส.ประชาธิปัตย์ให้ขาดสมาชิกภาพไปก่อนหน้านี้ เพราะหากเอกสารไม่ชัดเจนจะส่งผลต่อการวินิจฉัยได้ จากนั้นให้นำสำนนวนมาเสนอต่อนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.อีกครั้งในวันที่ 25 สิงหาคม พร้อมปฏิเสธการขยายเวลาดังกล่าวไม่ได้เป็นการยื้อเวลา
ส่วนสำนวนการวินิจฉัยกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ นายสุทธิพล กล่าวว่า ประธาน กกต.ได้รับสำนวนจากคณะอนุกรรมการไต่สวนแล้ว