นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงขั้นตอนการตรวจสอบการยื่นถวายฎีกาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ยื่นเมื่อวานที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ยังมาไม่ถึงมือตน ซึ่งเชื่อว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารที่นำส่งมา และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ของการถวายฎีกาในครั้งนี้ว่าต้องการร้องทุกข์ หรือต้องการขอพระราชทานอภัยโทษ โดยหากพบว่าเป็นการขอพระราชทานอภัยโทษ ก็จะส่งเรื่องให้กรมราชทัณฑ์ตรวจสอบและตรวจประวัติ พิจารณาในส่วนของอัตราโทษของผู้ที่ร้องขอ ก่อนจะส่งกลับมายังกระทรวงยุติธรรมพิจารณาตรวจสอบเอกสารที่ส่งมาว่าถูกต้องตามเงื่อนไขหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าส่วนใดไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามที่กำหนด ก็ถือว่าจบ ไม่ต้องดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาหากเป็นการขอพระราชทานอภัยโทษ จะต้องให้ญาติหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาส่งเรื่องและวัตถุประสงค์ที่แน่นอน ก็สามารถส่งได้แล้ว แต่หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าทั้งหมดไม่เข้าเกณฑ์ ก็ถือว่าสิ้นสุดเช่นกัน ซึ่งไม่ต่างกับกระบวนการของศาล ที่ถูกตัดสินจากศาลชั้นต้นก็สามารถยื่นอุทธรณ์และฎีกาได้ตามลำดับ แต่หากศาลฎีกาพิจารณาพิพากษาลงโทษเช่นเดิม ก็ถือว่าสิ้นสุดแล้ว และที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมของไทยก็ไม่เคยมีปัญหา หากผู้ก่อเหตุไม่ยอมรับและฎีกาทุกคน บ้านเมืองก็จะเกิดความวุ่นวาย
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวด้วยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ไม่มีการบรรจุวาระดังกล่าวเข้าพิจารณาด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาหากเป็นการขอพระราชทานอภัยโทษ จะต้องให้ญาติหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาส่งเรื่องและวัตถุประสงค์ที่แน่นอน ก็สามารถส่งได้แล้ว แต่หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าทั้งหมดไม่เข้าเกณฑ์ ก็ถือว่าสิ้นสุดเช่นกัน ซึ่งไม่ต่างกับกระบวนการของศาล ที่ถูกตัดสินจากศาลชั้นต้นก็สามารถยื่นอุทธรณ์และฎีกาได้ตามลำดับ แต่หากศาลฎีกาพิจารณาพิพากษาลงโทษเช่นเดิม ก็ถือว่าสิ้นสุดแล้ว และที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมของไทยก็ไม่เคยมีปัญหา หากผู้ก่อเหตุไม่ยอมรับและฎีกาทุกคน บ้านเมืองก็จะเกิดความวุ่นวาย
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวด้วยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ไม่มีการบรรจุวาระดังกล่าวเข้าพิจารณาด้วย