นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมหารือกับคณะกรรมการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนแห่งชาติ ในฐานะที่ปรึกษา โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีบทบาทในการจัดทำแผนนโยบายเสนอต่อรัฐบาล เพื่อเสริมสร้างบทบาทของชุมชนให้มีความเข้มแข็ง มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาในพื้นที่เป็นหลัก
ที่ประชุมมีเรื่องที่จะต้องพิจารณา 3 เรื่อง คือ แนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน โดยให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นแกนหลัก การปฏิรูประบบเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการเร่งรัดออก พ.ร.บ.องค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ซึ่งมีตัวแทนจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมหารือในครั้งนี้
ด้านนางสุพัตรา มาศดิตถ์ ประธานคณะกรรมการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนแห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าว มีการทำงานอย่างยาวนาน ปัจจุบันประชาชนมีความต้องการกู้เงินเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้เสนอของบประมาณไปแล้ว ในกรอบ 1,000 ล้านบาท จากปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง เพื่อนำไปสนับสนุน กว่า 8,000 ครอบครัว และจะมีการของบประมาณสนับสนุน อีก 5,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี โดยจะดำเนินการคืนเงินเข้าสู่ระบบตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไป และคาดว่าทั้งชุมชนเมืองและชุมชนชนบท จะมีการพัฒนาที่อยู่อาศัยได้ร้อยละ 90 ภายใน 3 ปี
นางสุพัตรา กล่าวอีกว่า การเร่งรัดให้ออก พ.ร.บ.องค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ จำเป็นจะต้องศึกษาอย่างจริงจัง และต้องรับฟังความคิดเห็นประชาชนจากทุกภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิในเรื่องนี้อย่างแท้จริง
ที่ประชุมมีเรื่องที่จะต้องพิจารณา 3 เรื่อง คือ แนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน โดยให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นแกนหลัก การปฏิรูประบบเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการเร่งรัดออก พ.ร.บ.องค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ซึ่งมีตัวแทนจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมหารือในครั้งนี้
ด้านนางสุพัตรา มาศดิตถ์ ประธานคณะกรรมการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนแห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าว มีการทำงานอย่างยาวนาน ปัจจุบันประชาชนมีความต้องการกู้เงินเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้เสนอของบประมาณไปแล้ว ในกรอบ 1,000 ล้านบาท จากปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง เพื่อนำไปสนับสนุน กว่า 8,000 ครอบครัว และจะมีการของบประมาณสนับสนุน อีก 5,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี โดยจะดำเนินการคืนเงินเข้าสู่ระบบตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไป และคาดว่าทั้งชุมชนเมืองและชุมชนชนบท จะมีการพัฒนาที่อยู่อาศัยได้ร้อยละ 90 ภายใน 3 ปี
นางสุพัตรา กล่าวอีกว่า การเร่งรัดให้ออก พ.ร.บ.องค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ จำเป็นจะต้องศึกษาอย่างจริงจัง และต้องรับฟังความคิดเห็นประชาชนจากทุกภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิในเรื่องนี้อย่างแท้จริง