นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ เดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการมหกรรมรณรงค์ ป้องกัน ควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชายแดนใต้ โดยมีส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน ร่วมเดินรณรงค์กว่า 2,000 คน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้มอบนโยบายการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้กับ อสม. ในพื้นที่ ภายใต้ยุทธศาสตร์ ค้นหาเร็ว ให้เจอผู้ป่วยเร็ว และให้การรักษาอย่างรวดเร็ว โดยให้ อสม.ออกเยี่ยมบ้านราษฎรที่รับผิดชอบเพื่อคัดกรองผู้ป่วยสัปดาห์ละ 3 วันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงหลัก ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี หญิงตั้งครรภ์ คนอ้วน และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง จะให้ อสม.จะติดตามอาการของผู้ป่วยทุกวันจนกว่าจะหายเป็นปกติ และหากพบผู้ป่วยที่เข้าข่ายเสี่ยงอันตรายให้รีบส่งโรงพยาบาลทันที
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวอีกว่า ถึงแม้อำเภอเบตงจะพบผู้ป่วยสะสม 12 ราย และยังไม่มีผู้เสียชีวิต แต่อำเภอเบตงมีชายแดนติดกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเฝ้าระวังตรวจสอบบุคคลเข้า-ออก บริเวณด่านชายแดนอย่างเข้มงวด เพราะในแต่ละวันจะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตามสถานบริการในอำเภอเบตงเป็นจำนวนมาก อาจนำเชื้อโรคดังกล่าวเข้ามาแพร่กระจายในพื้นที่ได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตามโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเบตง ช่วงเช้าก่อนเข้าโรงเรียนจะมีครูคอยตรวจสอบ คัดกรองนักเรียนที่มีอาการเป็นไข้หวัดอย่างเข้มงวด ทั้งนี้หากพบนักเรียนที่มีอาการดังกล่าว ทางโรงเรียนจะให้หยุดเรียนและกลับไปรักษาตัวที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ ซึ่งคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยตัดวงจรของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ภายในโรงเรียนได้อีกทางหนึ่ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้มอบนโยบายการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้กับ อสม. ในพื้นที่ ภายใต้ยุทธศาสตร์ ค้นหาเร็ว ให้เจอผู้ป่วยเร็ว และให้การรักษาอย่างรวดเร็ว โดยให้ อสม.ออกเยี่ยมบ้านราษฎรที่รับผิดชอบเพื่อคัดกรองผู้ป่วยสัปดาห์ละ 3 วันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงหลัก ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี หญิงตั้งครรภ์ คนอ้วน และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง จะให้ อสม.จะติดตามอาการของผู้ป่วยทุกวันจนกว่าจะหายเป็นปกติ และหากพบผู้ป่วยที่เข้าข่ายเสี่ยงอันตรายให้รีบส่งโรงพยาบาลทันที
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวอีกว่า ถึงแม้อำเภอเบตงจะพบผู้ป่วยสะสม 12 ราย และยังไม่มีผู้เสียชีวิต แต่อำเภอเบตงมีชายแดนติดกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเฝ้าระวังตรวจสอบบุคคลเข้า-ออก บริเวณด่านชายแดนอย่างเข้มงวด เพราะในแต่ละวันจะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตามสถานบริการในอำเภอเบตงเป็นจำนวนมาก อาจนำเชื้อโรคดังกล่าวเข้ามาแพร่กระจายในพื้นที่ได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตามโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเบตง ช่วงเช้าก่อนเข้าโรงเรียนจะมีครูคอยตรวจสอบ คัดกรองนักเรียนที่มีอาการเป็นไข้หวัดอย่างเข้มงวด ทั้งนี้หากพบนักเรียนที่มีอาการดังกล่าว ทางโรงเรียนจะให้หยุดเรียนและกลับไปรักษาตัวที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ ซึ่งคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยตัดวงจรของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ภายในโรงเรียนได้อีกทางหนึ่ง
