นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศเร่งไปจัดทำรายละเอียดข้อมูลในทุกเรื่องเกี่ยวกับประเทศอินเดีย ทั้งเรื่องการค้า การลงทุน รวมถึงศักยภาพด้านอื่นให้ชัดเจน เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบการเจรจาในช่วงที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อเปิดตลาดการค้าการลงทุนอย่างเป็นทางการต่อไป
สำหรับตลาดอินเดียถือเป็นเป้าหมายหลักของไทยที่ต้องการขยายการค้าการลงทุน และการส่งออกไปสู่ตลาดใหม่ เช่นเดียวกับจีน นอกเหนือจากอาเซียน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น หรือยุโรป รวมถึงการสานต่อความร่วมมือเรื่องเส้นทางเชื่อมโยงการค้าตามนโยบายการเปิดน่านฟ้าเสรี การเชื่อมโยงถนนไทย-พม่า-อินเดีย ซึ่งมั่นใจว่าการเดินทางเยือนของนายกรัฐมนตรี นอกจากจะเป็นการกระชับความสำคัญระหว่างไทยกับอินเดียแล้ว จะยิ่งช่วยเพิ่มการค้าการลงทุนให้กับไทยมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการท่องเที่ยวพบว่านักท่องเที่ยวอินเดียไม่ได้กังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในไทยมากนัก ทั้งเรื่องของการเมือง หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยล่าสุดยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยจำนวนมาก
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 41 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ได้มีการลงนามความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างชาติอาเซียนและอินเดียให้สามารถขยายตัวได้สูงถึง 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2559 จากปกติที่มีมูลค่าการค้าประมาณ 47,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2551 โดยไทยตั้งเป้าหมายว่าเมื่อข้อตกลงครั้งนี้มีผลบังคับใช้ในปี 2553 จะทำให้มูลค่าการค้าของทั้ง 2 ประเทศ เพิ่มขึ้นถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับตลาดอินเดียถือเป็นเป้าหมายหลักของไทยที่ต้องการขยายการค้าการลงทุน และการส่งออกไปสู่ตลาดใหม่ เช่นเดียวกับจีน นอกเหนือจากอาเซียน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น หรือยุโรป รวมถึงการสานต่อความร่วมมือเรื่องเส้นทางเชื่อมโยงการค้าตามนโยบายการเปิดน่านฟ้าเสรี การเชื่อมโยงถนนไทย-พม่า-อินเดีย ซึ่งมั่นใจว่าการเดินทางเยือนของนายกรัฐมนตรี นอกจากจะเป็นการกระชับความสำคัญระหว่างไทยกับอินเดียแล้ว จะยิ่งช่วยเพิ่มการค้าการลงทุนให้กับไทยมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการท่องเที่ยวพบว่านักท่องเที่ยวอินเดียไม่ได้กังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในไทยมากนัก ทั้งเรื่องของการเมือง หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยล่าสุดยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยจำนวนมาก
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 41 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ได้มีการลงนามความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างชาติอาเซียนและอินเดียให้สามารถขยายตัวได้สูงถึง 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2559 จากปกติที่มีมูลค่าการค้าประมาณ 47,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2551 โดยไทยตั้งเป้าหมายว่าเมื่อข้อตกลงครั้งนี้มีผลบังคับใช้ในปี 2553 จะทำให้มูลค่าการค้าของทั้ง 2 ประเทศ เพิ่มขึ้นถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
