นายวศิน ธีรเวชญาณ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย-กัมพูชา ชี้แจงความเข้าใจถึงพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา โดยยืนยันว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถเข้าไปทำอะไรได้จนกว่าจะตกลงเรื่องเขตแดนได้ อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าในการตกลงเรื่องเขตแดน หลังทำบันทึกความเข้าใจพื้นที่ทางทะเลปี 2544 การประชุมยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากไม่มีข้อสรุปที่พอใจทั้งสองฝ่าย จึงหยุดประชุมไปตั้งแต่ปี 2549
ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าไทยอาจสูญเสียดินแดนดังกล่าว เนื่องจากแผนที่แนบท้ายบันทึกความเข้าใจที่กัมพูชาลากเส้นเข้ามาในพื้นที่บริเวณเกาะกูดนั้น นายวศิน ยืนยันว่า มีกฎหมายระหว่างประเทศแสดงชัดเจนว่า พื้นที่เกาะกูดเป็นของไทย อย่างไรก็ตาม การลากเส้นในบันทึกความเข้าใจทั้งสองฝ่าย ดำเนินการที่จะรักษาผลประโยชน์ของตนให้ได้มากที่สุด ซึ่งการลากเส้นยึดตามแผนที่เดินเรือ ซึ่งเป็นของสากล ไม่ใช่แผนที่ของใคร ทั้งนี้ การดำเนินการเรื่องเขตแดนต้องทำอย่างระมัดระวังมากที่สุด อาศัยหลักเกณฑ์ตามกฎหมายที่อธิบายได้ เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหา
ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าไทยอาจสูญเสียดินแดนดังกล่าว เนื่องจากแผนที่แนบท้ายบันทึกความเข้าใจที่กัมพูชาลากเส้นเข้ามาในพื้นที่บริเวณเกาะกูดนั้น นายวศิน ยืนยันว่า มีกฎหมายระหว่างประเทศแสดงชัดเจนว่า พื้นที่เกาะกูดเป็นของไทย อย่างไรก็ตาม การลากเส้นในบันทึกความเข้าใจทั้งสองฝ่าย ดำเนินการที่จะรักษาผลประโยชน์ของตนให้ได้มากที่สุด ซึ่งการลากเส้นยึดตามแผนที่เดินเรือ ซึ่งเป็นของสากล ไม่ใช่แผนที่ของใคร ทั้งนี้ การดำเนินการเรื่องเขตแดนต้องทำอย่างระมัดระวังมากที่สุด อาศัยหลักเกณฑ์ตามกฎหมายที่อธิบายได้ เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหา