นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การเข้าชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่ต้องดูแลไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ที่ส่งผลกระทบต่อสถาบันหลักของชาติ อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ไม่ตัดไฟแต่ต้นลม เพราะไม่ต้องการท้าทายยั่วยุให้เกิดความรุนแรง โดยรัฐบาลได้ดำเนินการไปหลายอย่างแล้ว ไม่ได้เฝ้าระวังเพียงอย่างเดียว ซึ่งมั่นใจการถวายฎีกาครั้งนี้ จะไม่กระทบทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
ทั้งนี้ส่วนตัวอยากให้มีการตรวจสอบรายชื่อ การถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเชื่อว่าประชาชนจำนวนมากที่ลงชื่อไม่ทราบข้อเท็จจริง ส่วนตัวเลข 4 ล้านรายชื่อนั้น ไม่ทราบว่า เป็นจำนวนตัวเลขจริงเท็จเพียงใด
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันนี้จะพูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กรณีบุคคลที่จะมารักษาราชการแทน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ส่วนบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจนั้น นายสุเทพได้เสนอให้หยุดตั้งหลักเพื่อพิจารณาใหม่ โดยยืนยันว่า ไม่ได้บีบบังคับ และส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมด เพราะมีหน้าที่ในการวางตำแหน่งเท่านั้น
ทั้งนี้ส่วนตัวอยากให้มีการตรวจสอบรายชื่อ การถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเชื่อว่าประชาชนจำนวนมากที่ลงชื่อไม่ทราบข้อเท็จจริง ส่วนตัวเลข 4 ล้านรายชื่อนั้น ไม่ทราบว่า เป็นจำนวนตัวเลขจริงเท็จเพียงใด
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันนี้จะพูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กรณีบุคคลที่จะมารักษาราชการแทน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ส่วนบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจนั้น นายสุเทพได้เสนอให้หยุดตั้งหลักเพื่อพิจารณาใหม่ โดยยืนยันว่า ไม่ได้บีบบังคับ และส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมด เพราะมีหน้าที่ในการวางตำแหน่งเท่านั้น
