นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ได้ทำความเข้าใจกับธนาคารพาณิชย์ หลังกรมสรรพากรออกประกาศยกเว้นภาษีเงินได้จากดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี ซึ่งต่อไปนี้ธนาคารจะไม่หักภาษี ณ ที่จ่าย จากบัญชีออมทรัพย์ทุกบัญชี ส่วนผู้ที่มีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากเกิน 20,000 บาทขึ้นไป ต้องมีหน้าที่ไปยื่นเสียภาษีเองต่อไป
สำหรับผู้มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หลายบัญชีในหลายธนาคาร และได้รับดอกเบี้ยเงินฝากรวมกันเกิน 20,000 บาทต่อปี สามารถแจ้งให้ธนาคารเพื่อให้หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตรา 15 เปอร์เซ็นต์ และให้ธนาคารออกหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายดังกล่าว เพื่อนำไปใช้ขอคืนภาษีต่อไป
กรมสรรพากรระบุด้วยว่า หากผู้ที่ไม่ขอคืนภาษีจากดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่ผ่านมา ซึ่งธนาคารได้หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้แล้ว ยังสามารถขอคืนภาษีย้อนหลังได้ 3 ปี ตามกฎหมาย
สำหรับผู้มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หลายบัญชีในหลายธนาคาร และได้รับดอกเบี้ยเงินฝากรวมกันเกิน 20,000 บาทต่อปี สามารถแจ้งให้ธนาคารเพื่อให้หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตรา 15 เปอร์เซ็นต์ และให้ธนาคารออกหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายดังกล่าว เพื่อนำไปใช้ขอคืนภาษีต่อไป
กรมสรรพากรระบุด้วยว่า หากผู้ที่ไม่ขอคืนภาษีจากดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่ผ่านมา ซึ่งธนาคารได้หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้แล้ว ยังสามารถขอคืนภาษีย้อนหลังได้ 3 ปี ตามกฎหมาย