คณะรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ กำลังเร่งมือตอบโต้สกัดกั้นอิทธิพลบารมีของจีนที่เบ่งบานขึ้นทุกทีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการเดินหน้าในหลายๆ เรื่องที่จะช่วยฟื้นฟูสายสัมพันธ์กับสมาคมอาเซียนที่มีประชากรรวมกันร่วมๆ 600 ล้านคน
เมื่อวันพุธ(22) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฮิลลารี คลินตัน ได้ลงนามเข้าเป็นภาคีในสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia) อันเป็นข้อตกลงพื้นฐานฉบับหนึ่งของสมาคมอาเซียน หลังจากมีเสียงบ่นมานานปีจากเหล่าสมาชิกอาเซียนว่า คณะรัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช นั้นละเลยไม่สนใจพวกตน
“ดิฉันขอพูดให้ชัดเจนเลยว่าสหรัฐฯ กำลังกลับมาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเราจะเข้ามาร่วมมือและสานต่อความสัมพันธ์กับภูมิภาคนี้อย่างเต็มที่” คลินตัน กล่าวก่อนลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าว ในระหว่างร่วมการประชุมว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงของอาเซียน (เออาร์เอฟ) ที่ภูเก็ต
ในยุคคณะรัฐบาลบุชนั้น คอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีการต่างประเทศเวลานั้น ได้บอกยกเลิกเข้าร่วมประชุมเออาร์เอฟถึง 2 ครั้ง
คลินตันกล่าวอีกว่า สหรัฐฯยังกำลังจะประกาศแต่งตั้งเอกอัครราชทูตถาวร ซึ่งจะมาประจำที่สำนักงานใหญ่ของอาเซียนในอินโดนีเซีย เปลี่ยนแปลงไปจากเอกอัครราชทูตดูแลกิจการอาเซียนของสหรัฐฯในปัจจุบัน ที่ประจำอยู่ที่กรุงวอชิงตัน
เมื่อวันพุธ(22) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฮิลลารี คลินตัน ได้ลงนามเข้าเป็นภาคีในสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia) อันเป็นข้อตกลงพื้นฐานฉบับหนึ่งของสมาคมอาเซียน หลังจากมีเสียงบ่นมานานปีจากเหล่าสมาชิกอาเซียนว่า คณะรัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช นั้นละเลยไม่สนใจพวกตน
“ดิฉันขอพูดให้ชัดเจนเลยว่าสหรัฐฯ กำลังกลับมาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเราจะเข้ามาร่วมมือและสานต่อความสัมพันธ์กับภูมิภาคนี้อย่างเต็มที่” คลินตัน กล่าวก่อนลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าว ในระหว่างร่วมการประชุมว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงของอาเซียน (เออาร์เอฟ) ที่ภูเก็ต
ในยุคคณะรัฐบาลบุชนั้น คอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีการต่างประเทศเวลานั้น ได้บอกยกเลิกเข้าร่วมประชุมเออาร์เอฟถึง 2 ครั้ง
คลินตันกล่าวอีกว่า สหรัฐฯยังกำลังจะประกาศแต่งตั้งเอกอัครราชทูตถาวร ซึ่งจะมาประจำที่สำนักงานใหญ่ของอาเซียนในอินโดนีเซีย เปลี่ยนแปลงไปจากเอกอัครราชทูตดูแลกิจการอาเซียนของสหรัฐฯในปัจจุบัน ที่ประจำอยู่ที่กรุงวอชิงตัน