นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ด้านการบริหารการเลือกตั้ง เปิดเผยถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กดดันให้ กกต.แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการถือครองหุ้นของนายสุเทพ ไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญว่า ตนเห็นว่านายสุเทพ ไม่ควรกดดันหรือประชด กกต. แต่ควรไม่พอใจบุคคลที่ร้องให้ กกต.ตรวจสอบมากกว่า เพราะ กกต.ปฏิบัติไปตามหน้าที่เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นายประพันธ์ ยืนยันด้วยว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ถูก กกต.วินิจฉัยให้ขาดสมาชิกภาพนั้น ยังไม่ควรตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง เพราะการวินิจฉัยเป็นเพียงการตีความตามข้อกฎหมายเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องการแสดงสปิริต ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ผิด แล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบงบประมาณจัดการเลือกตั้งซ่อม
นอกจากนี้ นายประพันธ์ ยังระบุด้วยว่า ตนยังไม่ได้รับสำนวนของคณะอนุกรรมการ กรณีผลสอบการถือครองหุ้นของ 44 ส.ส.ที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งวันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคมนี้ ยังไม่สามารถลงมติได้อย่างแน่นอน แต่จะขยายเวลาให้คณะอนุกรรมการไปแบ่งกลุ่มการถือครองหุ้น เหมือนกรณี 28 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ
อย่างไรก็ตาม นายประพันธ์ ยืนยันด้วยว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ถูก กกต.วินิจฉัยให้ขาดสมาชิกภาพนั้น ยังไม่ควรตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง เพราะการวินิจฉัยเป็นเพียงการตีความตามข้อกฎหมายเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องการแสดงสปิริต ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ผิด แล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบงบประมาณจัดการเลือกตั้งซ่อม
นอกจากนี้ นายประพันธ์ ยังระบุด้วยว่า ตนยังไม่ได้รับสำนวนของคณะอนุกรรมการ กรณีผลสอบการถือครองหุ้นของ 44 ส.ส.ที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งวันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคมนี้ ยังไม่สามารถลงมติได้อย่างแน่นอน แต่จะขยายเวลาให้คณะอนุกรรมการไปแบ่งกลุ่มการถือครองหุ้น เหมือนกรณี 28 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ