นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 ว่า ที่ผ่านมาทั้ง 10 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน เผชิญกับปัญหาร่วมกันมากมาย ทั้งปัญหาเศรษฐกิจในภูมิภาค และโรคระบาด โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยอาเซียนอยู่ระหว่างต่อยอดเพื่อยกระดับความร่วมมือในการผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โดยได้รับความร่วมมือจากองค์การอนามัยโลก และเพื่อเป็นการปกป้องประชาชน ถือว่าอาเซียนได้เดินมาถูกทางแล้วในการริเริ่มดำเนินงานขององค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียน ในการประชุมสุดยอดอาเซียนที่จะมีขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ โดยหวังว่าจะได้เห็นขอบเขตอำนาจหน้าที่ขององค์กรสิทธิมนุษยชน ที่จะได้รับการรับรองเร็วๆ นี้ อีกทั้งขณะนี้อาเซียนอยู่บนเส้นทางการจัดตั้งประชาคมที่จะเสริมความสามารถในการแข่งขันกับภูมิภาคอื่นได้มากขึ้น และจะมีการสร้างกลไกการระงับข้อพิพาทภายใต้กฎบัตรอาเซียน ที่จะมุ่งสู่การเป็นประชาคมในปี 2558 ซึ่งในมุมมองของไทย ประชาคมอาเซียนต้องมี 3 รูปแบบ คือ 1.ประชาคมแห่งการปฏิบัติในการรับมือกับภัยคุกคามและความท้าทาย ทั้งในและนอกประเทศ ที่มีผลต่อความมั่นคง 2.ประชาคมแห่งการติดต่อเชื่อมโยง ทั้งด้านสินค้า และประชาชน และ 3.ประชาคมของประชาชน ที่ถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของอาเซียน โดยต้องมั่นใจว่าประชาชนอาเซียนมีช่องทางที่เท่าเทียมกันในการพัฒนาบุคคล
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดยหวังว่าจะบรรลุเป้าหมายร่วมของประชาคมอาเซียน และในเดือนธันวาคมนี้ ประเทศไทยจะส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนให้กับประเทศเวียดนามต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดยหวังว่าจะบรรลุเป้าหมายร่วมของประชาคมอาเซียน และในเดือนธันวาคมนี้ ประเทศไทยจะส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนให้กับประเทศเวียดนามต่อไป