นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า จากการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ มากว่า 20 ปี กลุ่มเป้าหมายแรกอยู่ที่พระสงฆ์ ครู อาจารย์ และแพทย์ เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีแก่สังคม รวมถึงเป็นการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องสูบบุหรี่ สู่ประชาชน ตลอดเวลาที่ผ่านมา อัตราการสูบบุหรี่ของครูและแพทย์ ลดลงตามลำดับ แต่อัตราการสูบบุหรี่ของพระสงฆ์ ยังอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง สอดคล้องกับข้อมูลจากโรงพยาบาลสงฆ์ พบว่า ในปี พ.ศ.2546 - 2547 มีพระภิกษุสงฆ์อาพาธ จำนวน 59,000 รูป ในจำนวนนี้มีพระที่อาพาธ และมีประวัติสูบบุหรี่ ประมาณ 18,000 รูป คิดเป็นร้อยละ 30 ของพระอาพาธทั้งหมด โดยโรคที่เป็นสาเหตุของการมรณภาพ 3 อันดับแรก คือ มะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง และวัณโรคปอด
นอกจากนี้ วัดยังเป็นศาสนสถานที่ต้องจัดเขตปลอดบุหรี่ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพื่อคุ้มครองสุขภาพทั้งผู้สูบเองและผู้ได้รับควัญบุหรี่ ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขกำลังออกประกาศฉบับใหม่ กำหนดให้วัดต้องปลอดบุหรี่ ดังนั้น เข้าพรรษาปีนี้จึงเป็นนิมิตรหมายอันดีที่จะวอนขอให้พระสงฆ์เลิกสูบบุหรี่ หรืออย่างน้อยไม่สูบบุหรี่ในที่ที่คนเห็น ซึ่งนอกจากเป็นการหยุดทำร้ายสุขภาพตนเองและผู้อื่นแล้ว ยังเป็นการทำให้พุทธศาสนิกชนได้เรียนรู้ต้นแบบพฤติกรรมอันดีที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตอีกด้วย
นอกจากนี้ วัดยังเป็นศาสนสถานที่ต้องจัดเขตปลอดบุหรี่ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพื่อคุ้มครองสุขภาพทั้งผู้สูบเองและผู้ได้รับควัญบุหรี่ ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขกำลังออกประกาศฉบับใหม่ กำหนดให้วัดต้องปลอดบุหรี่ ดังนั้น เข้าพรรษาปีนี้จึงเป็นนิมิตรหมายอันดีที่จะวอนขอให้พระสงฆ์เลิกสูบบุหรี่ หรืออย่างน้อยไม่สูบบุหรี่ในที่ที่คนเห็น ซึ่งนอกจากเป็นการหยุดทำร้ายสุขภาพตนเองและผู้อื่นแล้ว ยังเป็นการทำให้พุทธศาสนิกชนได้เรียนรู้ต้นแบบพฤติกรรมอันดีที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตอีกด้วย