สวนดุสิตโพล เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง "รัฐบาลผสมวันนี้ ในสายตาประชาชน" พบว่า ประชาชนมองความขัดแย้ง เป็นผลมาจากเรื่องความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว 38.32 เปอร์เซ็นต์ รองลงมา คือ การรวมตัวกันเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็เกิดความขัดแย้งขึ้น
ส่วนปัจจัยที่ทำให้เกิดความขัดแย้งนั้น ประชาชนร้อยละ 35.34 มองว่า เกิดจากผลประโยชน์จากโครงการบริหารงานของกระทรวงที่ได้รับมอบหมายในแต่ละพรรค รองลงมา คือ ความหวาดระแวง สงสัย และไม่ไว้ใจกันในแต่ละพรรค นอกจากนี้ ประชาชนยังมองว่า โครงการที่ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในรัฐบาลผสม พบว่า ส่วนใหญ่มาจากปัญหาโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน รองลงมา คือ เรื่องโครงการรับจำนำพืชผลเกษตร โดยเฉพาะข้าว และข้าวโพด และเรื่องต่อมา คือ เรื่องจัดสรรงบประมาณให้แต่ละกระทรวง
นอกจาากนี้ ประชาชนยังมองเห็นวิธีแก้ไขความขัดแย้งในรัฐบาลผสมว่า แต่ละพรรคต้องควบคุมสมาชิกให้ทำงานอย่างโปร่งใส ไม่ขัดแย้งกันลดการต่อรอง อย่ามุงผลประโยชน์ของพรรคจนลืมภาพรัฐบาล ลดทิฐิ และช่วยกันสร้างความเข้มแข็ง
อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังให้ความเชื่อมั่นรัฐบาลสมพรรคประชาธิปัตย์ สูงถึง 43.68 เปอร์เซ็นต์ รองลงมา คือ พรรคชาติไทยพัฒนา 21.62 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วยพรรคเพื่อแผ่นดิน 12.51 เปอร์เซ็นต์ พรรครวมใจไทย 11.45 เปอร์เซ็นต์ และลำดับสุดท้าย คือ พรรคภูมิใจไทย 11.10 เปอร์เซ็นต์
ส่วนปัจจัยที่ทำให้เกิดความขัดแย้งนั้น ประชาชนร้อยละ 35.34 มองว่า เกิดจากผลประโยชน์จากโครงการบริหารงานของกระทรวงที่ได้รับมอบหมายในแต่ละพรรค รองลงมา คือ ความหวาดระแวง สงสัย และไม่ไว้ใจกันในแต่ละพรรค นอกจากนี้ ประชาชนยังมองว่า โครงการที่ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในรัฐบาลผสม พบว่า ส่วนใหญ่มาจากปัญหาโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน รองลงมา คือ เรื่องโครงการรับจำนำพืชผลเกษตร โดยเฉพาะข้าว และข้าวโพด และเรื่องต่อมา คือ เรื่องจัดสรรงบประมาณให้แต่ละกระทรวง
นอกจาากนี้ ประชาชนยังมองเห็นวิธีแก้ไขความขัดแย้งในรัฐบาลผสมว่า แต่ละพรรคต้องควบคุมสมาชิกให้ทำงานอย่างโปร่งใส ไม่ขัดแย้งกันลดการต่อรอง อย่ามุงผลประโยชน์ของพรรคจนลืมภาพรัฐบาล ลดทิฐิ และช่วยกันสร้างความเข้มแข็ง
อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังให้ความเชื่อมั่นรัฐบาลสมพรรคประชาธิปัตย์ สูงถึง 43.68 เปอร์เซ็นต์ รองลงมา คือ พรรคชาติไทยพัฒนา 21.62 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วยพรรคเพื่อแผ่นดิน 12.51 เปอร์เซ็นต์ พรรครวมใจไทย 11.45 เปอร์เซ็นต์ และลำดับสุดท้าย คือ พรรคภูมิใจไทย 11.10 เปอร์เซ็นต์