เวลา 17.34 น.วันนี้ (30 มิ.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายวิรัตน์ ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาประจำศาล สำนักงานศาลยุติธรรม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ในโอกาสนี้ นายนายพินิจ สุเสารัจ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายวิชัย อริยะนันทกะ เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายบวรศักดิ์ ทวิภักดิ์ เลขานุการศาลฎีกา สำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมเฝ้าทูลละอองธุรีพระบาทด้วย
ในการนี้ได้มีพระบรมราโชวาทเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ รักษาความยุติธรรม และปฏิบัติตามคำปฏิญาณอย่างเคร่งครัด
"...ได้ฟังผู้พิพากษาที่จะเข้ารับหน้าที่ เพื่อที่จะทำตามที่ได้กล่าวปฏิญาณ กล่าวปฏิญาณนี้สำคัญมาก เพราะว่าต้องอยู่ใน.... ปฏิบัติหน้าที่ของกันโดยตรง การปฏิบัติหน้าที่จะต้องซื่อสัตย์ สุจริต อันนี้เป็นข้อสำคัญ หมายถึงว่า ท่านจะต้องซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่ และต่อท่านเองที่ได้กล่าวปฏิญาณ ถ้าไม่ได้ปฏิญาณก็ไม่แน่ที่ท่านจะทำหน้าที่ได้ เพราะว่าเป็นหน้าที่ที่ยากตามที่บอกว่า ท่านต้องทำตาม เพื่อที่จะประเทศชาติมีความสงบสุข ซึ่งหมายถึงว่า จะต้องมีความยุติธรรมในบ้านเมือง ถ้าไปเจอความอยุติธรรมที่ไหนก็ตามท่านต้องแก้ไข ไม่ใช่ในศาลเท่านั้น แต่ในหน้าที่และนอกหน้าที่ ท่านเห็นอะไรที่ไม่ยุติธรรมท่านต้องแก้ไข อันนี้เป็นหน้าที่ที่สำคัญ และท่านได้ปฏิญาณว่าจะทำหน้าที่นี้อย่างเคร่งครัดที่สุด ฉะนั้นขอให้ท่านได้สำนึกพึงความสำคัญของคำปฏิญาณนี้ และพยายามทำตามที่ได้กล่าว ไม่เช่นนั้นคำกล่าวที่ท่านพูดอะไรออกมาก็จะกลวงหมด หมายความ ไม่มีความหมาย ฉะนั้นก็ต้องจำไว้ จำคำปฏิญาณนี้ไว้โดยชัดเจน อันเป็นหน้าที่ของท่านโดยตรง
ก็ขอให้ท่านสามารถปฏิบัติหน้าที่ คือความยุติธรรมของบ้านเมือง เพื่อที่จะให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข บ้านเมืองมีความสงบสุข และใครทำอะไรไม่ดีที่ไหน ท่านต้องกล่าวถึง ท่านต้องพูด ท่านต้องยืนยันว่าเป็นหน้าที่ของท่านที่จะทำให้ยุติธรรม คนอื่นทำไม่ยุติธรรมนั้น ถ้าเขาไม่ได้ปฏิญาณก็คงไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ว่าทุกคนที่อยู่ในข่ายของการยุติธรรมนั้น คือคนไทยทั้งหมดจะเป็นผู้พิพากษาหรือไม่เป็น ก็จะต้องปฏิบัติด้วยความยุติธรรม ฉะนั้นท่านต้องดูแล สอดส่องให้เห็นว่า ความยุติธรรมยังมีอยู่ในบ้านเมือง ขอให้ท่านสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามที่ท่านได้กล่าวไว้ในที่นี้ เพื่อที่จะ บ้านเมืองมีความร่มเย็น"
ในการนี้ได้มีพระบรมราโชวาทเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ รักษาความยุติธรรม และปฏิบัติตามคำปฏิญาณอย่างเคร่งครัด
"...ได้ฟังผู้พิพากษาที่จะเข้ารับหน้าที่ เพื่อที่จะทำตามที่ได้กล่าวปฏิญาณ กล่าวปฏิญาณนี้สำคัญมาก เพราะว่าต้องอยู่ใน.... ปฏิบัติหน้าที่ของกันโดยตรง การปฏิบัติหน้าที่จะต้องซื่อสัตย์ สุจริต อันนี้เป็นข้อสำคัญ หมายถึงว่า ท่านจะต้องซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่ และต่อท่านเองที่ได้กล่าวปฏิญาณ ถ้าไม่ได้ปฏิญาณก็ไม่แน่ที่ท่านจะทำหน้าที่ได้ เพราะว่าเป็นหน้าที่ที่ยากตามที่บอกว่า ท่านต้องทำตาม เพื่อที่จะประเทศชาติมีความสงบสุข ซึ่งหมายถึงว่า จะต้องมีความยุติธรรมในบ้านเมือง ถ้าไปเจอความอยุติธรรมที่ไหนก็ตามท่านต้องแก้ไข ไม่ใช่ในศาลเท่านั้น แต่ในหน้าที่และนอกหน้าที่ ท่านเห็นอะไรที่ไม่ยุติธรรมท่านต้องแก้ไข อันนี้เป็นหน้าที่ที่สำคัญ และท่านได้ปฏิญาณว่าจะทำหน้าที่นี้อย่างเคร่งครัดที่สุด ฉะนั้นขอให้ท่านได้สำนึกพึงความสำคัญของคำปฏิญาณนี้ และพยายามทำตามที่ได้กล่าว ไม่เช่นนั้นคำกล่าวที่ท่านพูดอะไรออกมาก็จะกลวงหมด หมายความ ไม่มีความหมาย ฉะนั้นก็ต้องจำไว้ จำคำปฏิญาณนี้ไว้โดยชัดเจน อันเป็นหน้าที่ของท่านโดยตรง
ก็ขอให้ท่านสามารถปฏิบัติหน้าที่ คือความยุติธรรมของบ้านเมือง เพื่อที่จะให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข บ้านเมืองมีความสงบสุข และใครทำอะไรไม่ดีที่ไหน ท่านต้องกล่าวถึง ท่านต้องพูด ท่านต้องยืนยันว่าเป็นหน้าที่ของท่านที่จะทำให้ยุติธรรม คนอื่นทำไม่ยุติธรรมนั้น ถ้าเขาไม่ได้ปฏิญาณก็คงไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ว่าทุกคนที่อยู่ในข่ายของการยุติธรรมนั้น คือคนไทยทั้งหมดจะเป็นผู้พิพากษาหรือไม่เป็น ก็จะต้องปฏิบัติด้วยความยุติธรรม ฉะนั้นท่านต้องดูแล สอดส่องให้เห็นว่า ความยุติธรรมยังมีอยู่ในบ้านเมือง ขอให้ท่านสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามที่ท่านได้กล่าวไว้ในที่นี้ เพื่อที่จะ บ้านเมืองมีความร่มเย็น"