การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา ที่มี พล.อ.อ.ณพฤษภ์ มัณฑะจิตร ส.ว.สรรหา เป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณากรณีแกนนำกลุ่มเสื้อแดงเตรียมล่ารายชื่อประชาชน เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ พล.อ.อ.ณพฤษภ์ แถลงว่า ที่ผ่านมามีเหตุเหมือนเป็นการมุ่งร้ายต่อสถาบันอาจก่อผลร้ายแรงระหว่างประชาชนแต่ละฝ่าย ทั้งกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งจะรวบรวมรายชื่อประชาชน เพื่อถวายฎีกา การโยนหินถามทางเรื่องเปลี่ยนวันชาติ ทางคณะกรรมาธิการฯ มีความเป็นห่วงและขอเร่งรัดให้รัฐบาลดำเนินการตามที่ได้แถลงนโยบายไว้ คือ การปกป้องสถาบัน และขอให้ออกมาตอบโต้เรื่องดังกล่าว รวมทั้งขอวิงวอนประชาชนมีสติ รอบคอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว
ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา เลขานุการคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า เมื่อตรวจสอบข้อกฎหมายและหลักเกณฑ์ พบว่าการล่ารายชื่อของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่เข้าหลักเกณฑ์ใด เพราะผู้มีสิทธิ์ขออภัยโทษ คือ ผู้ต้องโทษหรือบิดา มารดา บุตร คู่สมรสของผู้ต้องโทษ ส่วนบุคคลคนอื่นจะมาดำเนินการให้ไม่ได้ และหากพิจารณาถึงบริบทแวดล้อมในเรื่องนี้พบว่า ข่าวดังกล่าวเกิดหลังกิจกรรมสัมมนาเรื่องตามหาวันชาติ เรื่องนี้จึงไม่บังควร เพราะเรื่องการพระราชทานอภัยโทษเป็นพระบรมราชวินิจฉัยตามพระราชอำนาจในรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมาธิการฯ เกรงว่าจะก่อความขัดแย้งในอนาคต
ทั้งนี้ พล.อ.อ.ณพฤษภ์ แถลงว่า ที่ผ่านมามีเหตุเหมือนเป็นการมุ่งร้ายต่อสถาบันอาจก่อผลร้ายแรงระหว่างประชาชนแต่ละฝ่าย ทั้งกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งจะรวบรวมรายชื่อประชาชน เพื่อถวายฎีกา การโยนหินถามทางเรื่องเปลี่ยนวันชาติ ทางคณะกรรมาธิการฯ มีความเป็นห่วงและขอเร่งรัดให้รัฐบาลดำเนินการตามที่ได้แถลงนโยบายไว้ คือ การปกป้องสถาบัน และขอให้ออกมาตอบโต้เรื่องดังกล่าว รวมทั้งขอวิงวอนประชาชนมีสติ รอบคอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว
ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา เลขานุการคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า เมื่อตรวจสอบข้อกฎหมายและหลักเกณฑ์ พบว่าการล่ารายชื่อของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่เข้าหลักเกณฑ์ใด เพราะผู้มีสิทธิ์ขออภัยโทษ คือ ผู้ต้องโทษหรือบิดา มารดา บุตร คู่สมรสของผู้ต้องโทษ ส่วนบุคคลคนอื่นจะมาดำเนินการให้ไม่ได้ และหากพิจารณาถึงบริบทแวดล้อมในเรื่องนี้พบว่า ข่าวดังกล่าวเกิดหลังกิจกรรมสัมมนาเรื่องตามหาวันชาติ เรื่องนี้จึงไม่บังควร เพราะเรื่องการพระราชทานอภัยโทษเป็นพระบรมราชวินิจฉัยตามพระราชอำนาจในรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมาธิการฯ เกรงว่าจะก่อความขัดแย้งในอนาคต