สัตวแพทย์หญิงกรรณิการ์ นิ่มตระกูล สัตวแพทย์ประจำตัวตัวแพนด้า เปิดเผยถึงพัฒนาการของลูกหมีแพนด้าน้อยว่า ขณะนี้แพนด้าน้อยพยายามยกหัวยืดหด และเกร็งตัวคล้ายหัดคลาน ซึ่งทำมาแล้วกว่า 1 สัปดาห์ แต่ยังไปไหนไม่ได้ และเริ่มลองกลิ้งตัวกับพื้นห้องและส่งเสียงร้องดัง ซึ่งถือว่าเป็นพัฒนาการที่เร็วกว่ากำหนด เพราะปกติต้องมีอายุ 2-3 เดือน ถึงจะเริ่มหัดคลาน และ 3 เดือนจึงจะคลาน และเริ่มตั้งไข่เดินเตาะแตะได้ ซึ่งในช่วง 6 เดือนที่ตอฟันน้ำนมขึ้นนั้น จะเป็นช่วงที่แพนด้าน้อยนั้นซนสุดๆ
สัตวแพทย์หญิงกรรณิการณ์ กล่าวต่อว่า ลูกหมีแพนด้าน้อยของเราถือว่าตัวใหญ่ที่สุดหากเทียบกับแพนด้าที่อยู่นอกประเทศจีนที่เคยพบมา ส่วนการลืมตานั้นคาดว่าแพนด้าน้อยอาจลืมตาก่อนครบ 45 วัน ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญจีนแจ้งว่าที่ผ่านมามีแพนด้าบางตัวลืมตาเร็วที่สุด 35 วัน จากปกติ 45 วัน ซึ่งคงต้องติดตามดูพัฒนาการกันต่อไป โดยกำหนดการตรวจสุขภาพครั้งต่อไปจะทำกันในวันที่ 30 มิถุนายน คือหลังจากนี้ไปจะกลับเข้าสู่โปรมแกรมการตรวจแบบ 2 วันครั้ง เนื่องจากช่วงนี้สามารถควบคุมฝึกหัดให้หลินฮุ่ยยอมวางลูกได้ตามแผนค่อนข้างดี
ทั้งนี้ คาดว่าในวันที่ 4-6 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะจัดงานใหญ่คือพิธีสู่ข้าวเอาขวัญรับแพนด้าน้อยร่วมกับทางจังหวัดนั้น อาจต้องเลื่อนเวลาเข้าชม จากเดิมช่วงเช้า 09.00 น.เป็น 10.30 น. และช่วงบ่ายเวลา 14.00 น.เป็น 15.30 น. โดยจะให้เวลาในการชมรอบละไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพราะหากนานกว่านั้นหลินฮุ่ยจะตามหาลูก และแพนด้าน้อยจะหิวนมและเริ่มส่งเสียงร้อง
ส่วนหลินฮุ่ยนั้นขณะนี้มีอาการคลายกังวลมากขึ้น ช่วงกลางคืนจะนอนนาน แต่จะมีปัญหาคือเวลาพี่เลี้ยงนำลูกไปคืนหลินฮุ่ยจะรัดลูกแน่นจนแพนด้าน้อยส่งเสียงร้องดัง และลูกจะได้ดูดกินนมแต่เฉพาะเต้าบนสองข้าง แต่เนื่องจากลูกมีขนาดตัวที่โตและดูดนมมากขึ้น เมื่อดูดนมผ่านไปประมาณ 10 นาที นมในเต้าบนก็จะหมดลงไปชั่วขณะ เมื่อแม่รัดลูกไว้แน่นทำให้ลูกพยายามจะมุดตัวลงไปดูดนมที่เต้าล่าง เมื่อไปไม่ได้จึงส่งเสียงร้องงอแงอยู่นาน ทางผู้เชี่ยวชาญจีนจึงได้บอกให้พี่เลี้ยงช่วยจัดการนำแอปเปิ้ลไปป้อนให้หลินฮุ่ยจะได้รู้สึกสบายใจ และยอมคลายมือเพื่อให้ลูกสามารถมุดลงไปกินนมเต้าล่างได้ เพราะหากกินจากเต้าเดียวน้ำนมคงไม่พอ
สัตวแพทย์หญิงกรรณิการณ์ กล่าวต่อว่า ลูกหมีแพนด้าน้อยของเราถือว่าตัวใหญ่ที่สุดหากเทียบกับแพนด้าที่อยู่นอกประเทศจีนที่เคยพบมา ส่วนการลืมตานั้นคาดว่าแพนด้าน้อยอาจลืมตาก่อนครบ 45 วัน ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญจีนแจ้งว่าที่ผ่านมามีแพนด้าบางตัวลืมตาเร็วที่สุด 35 วัน จากปกติ 45 วัน ซึ่งคงต้องติดตามดูพัฒนาการกันต่อไป โดยกำหนดการตรวจสุขภาพครั้งต่อไปจะทำกันในวันที่ 30 มิถุนายน คือหลังจากนี้ไปจะกลับเข้าสู่โปรมแกรมการตรวจแบบ 2 วันครั้ง เนื่องจากช่วงนี้สามารถควบคุมฝึกหัดให้หลินฮุ่ยยอมวางลูกได้ตามแผนค่อนข้างดี
ทั้งนี้ คาดว่าในวันที่ 4-6 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะจัดงานใหญ่คือพิธีสู่ข้าวเอาขวัญรับแพนด้าน้อยร่วมกับทางจังหวัดนั้น อาจต้องเลื่อนเวลาเข้าชม จากเดิมช่วงเช้า 09.00 น.เป็น 10.30 น. และช่วงบ่ายเวลา 14.00 น.เป็น 15.30 น. โดยจะให้เวลาในการชมรอบละไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพราะหากนานกว่านั้นหลินฮุ่ยจะตามหาลูก และแพนด้าน้อยจะหิวนมและเริ่มส่งเสียงร้อง
ส่วนหลินฮุ่ยนั้นขณะนี้มีอาการคลายกังวลมากขึ้น ช่วงกลางคืนจะนอนนาน แต่จะมีปัญหาคือเวลาพี่เลี้ยงนำลูกไปคืนหลินฮุ่ยจะรัดลูกแน่นจนแพนด้าน้อยส่งเสียงร้องดัง และลูกจะได้ดูดกินนมแต่เฉพาะเต้าบนสองข้าง แต่เนื่องจากลูกมีขนาดตัวที่โตและดูดนมมากขึ้น เมื่อดูดนมผ่านไปประมาณ 10 นาที นมในเต้าบนก็จะหมดลงไปชั่วขณะ เมื่อแม่รัดลูกไว้แน่นทำให้ลูกพยายามจะมุดตัวลงไปดูดนมที่เต้าล่าง เมื่อไปไม่ได้จึงส่งเสียงร้องงอแงอยู่นาน ทางผู้เชี่ยวชาญจีนจึงได้บอกให้พี่เลี้ยงช่วยจัดการนำแอปเปิ้ลไปป้อนให้หลินฮุ่ยจะได้รู้สึกสบายใจ และยอมคลายมือเพื่อให้ลูกสามารถมุดลงไปกินนมเต้าล่างได้ เพราะหากกินจากเต้าเดียวน้ำนมคงไม่พอ
