นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีการถูกตรวจสอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีถือหุ้นในกิจการที่รับสัมปทานจากรัฐซึ่งขัดรัฐธรรมนูญ ว่าขณะนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กกต. ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็พร้อมยอมรับ หากถูกตัดสินว่าผิดก็พร้อมลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรทันที โดยจะไม่มีการต่อสู้หรือคัดค้าน เพราะมองว่าตัวเองแก่เกินกว่าจะต่อสู้กับกระบวนการทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ไม่รู้สึกกังวลใดๆ เพราะที่ผ่านมาได้ทำการชี้แจงต่อ กกต.ไปแล้วทั้งทางวาจาและลายลักษณ์อักษรหลายครั้ง เชื่อว่าข้อมูลที่ให้มีความชัดเจน และหุ้นที่ตนเองถือครองทั้งหมดก็ได้ขายไปหมดแล้ว
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังกล่าวถึงกรณีหาก กกต.วินิจฉัยให้ ส.ส.ทั้ง 44 คน ที่ถูกตรวจสอบการถือหุ้นในกิจการที่รับสัมปทานจากรัฐ มีความผิดและ ส.ส.ทั้งหมดต้องพ้นสภาพไปว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจะต้องเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ซึ่งจะนำมาซึ่งความเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้ง ในรูปแบบเดียวกันกับการชุมนุมของกลุ่ม นปช.เมื่อคืนที่ผ่านมา
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังกล่าวถึงกรณีหาก กกต.วินิจฉัยให้ ส.ส.ทั้ง 44 คน ที่ถูกตรวจสอบการถือหุ้นในกิจการที่รับสัมปทานจากรัฐ มีความผิดและ ส.ส.ทั้งหมดต้องพ้นสภาพไปว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจะต้องเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ซึ่งจะนำมาซึ่งความเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้ง ในรูปแบบเดียวกันกับการชุมนุมของกลุ่ม นปช.เมื่อคืนที่ผ่านมา