ในการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นเรื่องแผนปรับปรุงการบริหารจัดการและบริการของระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้จัดรับฟังความคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจกรณีโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ของ ขสมก. โดยที่ประชุมมีตัวแทนจากหลายภาคส่วนเข้าร่วม เช่น ตัวแทนคนพิการ ตัวแทนสมาคมรถร่วม ขสมก. ตัวแทนสหภาพแรงงาน ขสมก. และภาคประชาชน
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย ส่วนใหญ่เห็นว่า ควรทบทวนโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เนื่องจากเห็นว่าอาจจะไม่คุ้มทุนค่าเช่า ค่าซ่อมบำรุงสูงกว่ามาตรฐาน ขณะที่คนพิการเห็นว่ารถเมล์ไม่มีสเปกสำหรับคนพิการ และทางรถร่วม ขสมก.ให้ความเห็นว่าเส้นทางใหม่ทั้ง 145 เส้นทางทับซ้อนเส้นทางของรถร่วมบริการถึงร้อยละ 80 ขณะที่ทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก.ยืนยันว่า การดำเนินโครงการ ขสมก.ควรเป็นผู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถเมล์แทนระบบเช่า โดยกระทรวงการคลังควรจะเป็นผู้ค้ำประกันการดำเนินการ ทางการเงิน เบื้องต้นอาจจะมีการซื้อหรือเช่าซื้อ 2,000 คันก่อน
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนภาคประชาชน โดยนายบุญชัย รุ่งเรืองไพศาลสุข ประธานเครือข่ายคัดค้านการขึ้นค่าโดยสารสาธารณะ ไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าปัจจุบัน ขสมก.ขาดทุนหลายหมื่นล้านบาท และยังมีปัญหาความไม่โปร่งใสในการดำเนินการ ซึ่งทางสหภาพฯ ได้แสดงความไม่พอใจต่อประเด็นนี้เป็นอย่างมาก
ด้านนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ สศช. กล่าวว่า จะรวบรวมความคิดเห็นทั้งหมดเสนอต่อคณะกรรมการ สศช.สัปดาห์หน้า โดยการดำเนินโครงการไม่ได้พิจารณาจากข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมเป็นที่ตั้ง แต่จะดูถึงการดำเนินการของ ขสมก.แบบยั่งยืน ซึ่งจะบูรณาการถึงการบริการภาคประชาชนในระยะ 5-10 ปีข้างหน้า โดยจะดูรวมไปถึงการบริการระบบขนส่งมวลชนทั้งระบบไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ การบริการของรถร่วมบริการ การเดินทางเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างกันทั้งเรือโดยสารและระบบอื่น ๆ รวมถึงความคุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งกรณีการพิจารณาหากใช้เวลา 30 วัน ตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดให้ สศช.ไม่เพียงพอ ก็จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีขอขยายระยะเวลาออกไปอีก โดยขอยืนยันว่าจะพิจารณาบนพื้นฐานที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย ส่วนใหญ่เห็นว่า ควรทบทวนโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เนื่องจากเห็นว่าอาจจะไม่คุ้มทุนค่าเช่า ค่าซ่อมบำรุงสูงกว่ามาตรฐาน ขณะที่คนพิการเห็นว่ารถเมล์ไม่มีสเปกสำหรับคนพิการ และทางรถร่วม ขสมก.ให้ความเห็นว่าเส้นทางใหม่ทั้ง 145 เส้นทางทับซ้อนเส้นทางของรถร่วมบริการถึงร้อยละ 80 ขณะที่ทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก.ยืนยันว่า การดำเนินโครงการ ขสมก.ควรเป็นผู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถเมล์แทนระบบเช่า โดยกระทรวงการคลังควรจะเป็นผู้ค้ำประกันการดำเนินการ ทางการเงิน เบื้องต้นอาจจะมีการซื้อหรือเช่าซื้อ 2,000 คันก่อน
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนภาคประชาชน โดยนายบุญชัย รุ่งเรืองไพศาลสุข ประธานเครือข่ายคัดค้านการขึ้นค่าโดยสารสาธารณะ ไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าปัจจุบัน ขสมก.ขาดทุนหลายหมื่นล้านบาท และยังมีปัญหาความไม่โปร่งใสในการดำเนินการ ซึ่งทางสหภาพฯ ได้แสดงความไม่พอใจต่อประเด็นนี้เป็นอย่างมาก
ด้านนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ สศช. กล่าวว่า จะรวบรวมความคิดเห็นทั้งหมดเสนอต่อคณะกรรมการ สศช.สัปดาห์หน้า โดยการดำเนินโครงการไม่ได้พิจารณาจากข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมเป็นที่ตั้ง แต่จะดูถึงการดำเนินการของ ขสมก.แบบยั่งยืน ซึ่งจะบูรณาการถึงการบริการภาคประชาชนในระยะ 5-10 ปีข้างหน้า โดยจะดูรวมไปถึงการบริการระบบขนส่งมวลชนทั้งระบบไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ การบริการของรถร่วมบริการ การเดินทางเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างกันทั้งเรือโดยสารและระบบอื่น ๆ รวมถึงความคุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งกรณีการพิจารณาหากใช้เวลา 30 วัน ตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดให้ สศช.ไม่เพียงพอ ก็จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีขอขยายระยะเวลาออกไปอีก โดยขอยืนยันว่าจะพิจารณาบนพื้นฐานที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ
