นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็น 1 ใน 20 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูก กกต.พิจารณากรณีถือหุ้นบริษัทเอกชนได้รับสัมปทานของรัฐ แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรานี้บัญญัติขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้มีอำนาจทางการเมือง ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่หาผลประโยชน์ทับซ้อน ส่วนการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นั้น ไม่สามารถเข้าไปมีบทบาทหรือใช้อำนาจทางการเมืองของตัวเองพลิกผันเพื่อหาผลประโยชน์ทับซ้อน จากการถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เพียง 1,000 - 2,000 หุ้นได้
นายถาวร กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะให้ความเป็นธรรม ตามแนวทางเจตนารมณ์ที่แท้จริงของรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนไม่ได้กังวลแต่อย่างใด เพราะเป็นมุมมองการตีความกฎหมายของ กกต. กับมุมมองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นเจนารมณ์ป้องกันไม่ให้นักการเมืองใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์ แต่การที่นักการเมือง หรือคู่สมรส ซื้อหุ้นเพียงไม่กี่หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ตนมั่นใจว่า ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ นักการเมืองไม่สามารถใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ได้
นายถาวร กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะให้ความเป็นธรรม ตามแนวทางเจตนารมณ์ที่แท้จริงของรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนไม่ได้กังวลแต่อย่างใด เพราะเป็นมุมมองการตีความกฎหมายของ กกต. กับมุมมองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นเจนารมณ์ป้องกันไม่ให้นักการเมืองใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์ แต่การที่นักการเมือง หรือคู่สมรส ซื้อหุ้นเพียงไม่กี่หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ตนมั่นใจว่า ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ นักการเมืองไม่สามารถใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ได้
