นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วินิจฉัยคุณสมบัติของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส) และ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ขัดรัฐธรรมนูญ ในการถือครองหุ้นบริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัมปทานของรัฐว่า เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาแต่อย่างใด หากใครทำผิดก็ต้องว่ากันตามหลักของกฎหมาย โดยเฉพาะ ส.ส. และ ส.ว. ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก ส่วนกระแสข่าวว่าตนเองจะถูก กกต.ตรวจสอบโดยวินิจฉัยว่า บริษัทของตัวเองไม่ได้รับสัมปทานนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวไม่น่าส่งผลกระทบกับการทำงานของ ส.ส.และ ส.ว. ในสภา เพราะสามารถเลือกตั้งและสรรหากลับเข้ามาได้ใหม่ ส่วนกรณีหากมี ส.ส. ถูกตัดสิทธิ์นั้นคงไม่มีปัญหา เพราะเสียงในสภาเกินกึ่งหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งสามารถเปิดประชุมได้ ตนเองมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องธรรมดา ทำให้ประชาชนตื่นตัวในระบอบประชาธิปไตยและกลับมาเลือกตั้งกันอีกครั้ง
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังกล่าวถึงเรื่องกฎหมายมาตราดังกล่าว เป็นปัญหาความบกพร่องที่ตัวบุคคลหรือไม่นั้น ต้องมองทั้งที่ตัวระบบและตัวบุคคลด้วย ซึ่งนักการเมืองย่อมต้องทราบถึงข้อกฎหมายดีอยู่แล้ว
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังกล่าวถึงเรื่องกฎหมายมาตราดังกล่าว เป็นปัญหาความบกพร่องที่ตัวบุคคลหรือไม่นั้น ต้องมองทั้งที่ตัวระบบและตัวบุคคลด้วย ซึ่งนักการเมืองย่อมต้องทราบถึงข้อกฎหมายดีอยู่แล้ว
