นางสดศรี สัตยธรรม ยืนยัน คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จะยึดหลักเกณฑ์เดียวกัน ในการวินิจฉัยการถือหุ้นของ 57 ส.ส. ภายหลังมีการลงมติให้ 16 ส.ว. สิ้นสุดสมาชิกภาพ เนื่องจากถือหุ้นสัมปทานรัฐขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะ กกต. ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 265 และ มาตรา 48 เพื่อไม่ให้เกิดเสียงครหาว่า กกต. มี 2 มาตรฐาน
ส่วนข้อโต้แย้งเช่น ถือครองหุ้นเพียงจำนวนเล็กน้อย ไม่สามารถครอบงำการบริหารได้ หรือ ได้มีการแจ้งต่อ ป.ป.ช.ก่อนเข้ารับตำแหน่งไปแล้วนั้น นางสดศรี กล่าวว่า คงต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตัดสิน เพราะในส่วนของ กกต.นั้น ทำหน้าที่เพียงแต่วินิจฉัยไปตามข้อกฎหมาย เช่นเดียวกับ อัยการ เพราะฉะนั้นในเมื่อข้อกฎหมายระบุไว้ว่าอย่างไรก็ทำหน้าที่ เพียงแต่ทำความเห็นว่า คดีมีมูล สามารถฟ้องร้องได้เท่านั้น ส่วนการตัดสินก็คงอยู่ที่ดุลพินิจของศาลต่อไป
ส่วนข้อโต้แย้งเช่น ถือครองหุ้นเพียงจำนวนเล็กน้อย ไม่สามารถครอบงำการบริหารได้ หรือ ได้มีการแจ้งต่อ ป.ป.ช.ก่อนเข้ารับตำแหน่งไปแล้วนั้น นางสดศรี กล่าวว่า คงต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตัดสิน เพราะในส่วนของ กกต.นั้น ทำหน้าที่เพียงแต่วินิจฉัยไปตามข้อกฎหมาย เช่นเดียวกับ อัยการ เพราะฉะนั้นในเมื่อข้อกฎหมายระบุไว้ว่าอย่างไรก็ทำหน้าที่ เพียงแต่ทำความเห็นว่า คดีมีมูล สามารถฟ้องร้องได้เท่านั้น ส่วนการตัดสินก็คงอยู่ที่ดุลพินิจของศาลต่อไป