นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือต่อ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เพื่อขอให้ตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กรณีได้รับประโยชน์อื่นใดคำนวนได้จากการส่งข้อความ SMS เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เป็นบุคคลต้องเสียภาษีให้กับรัฐเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป แต่หลังจากที่เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2551 ที่มีการส่งข้อความไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่กับประชาชน ซึ่งหากสนใจให้ตอบกลับ ก็จะเสียค่าบริการ 3 บาท หลังจากคำนวนมูลค่าส่งข้อความนั้น นายอภิสิทธิ์ จะได้รับประโยชน์จากการที่ได้รับบริการ 51 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัททั้ง 3 ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเอง เข้าลักษณะการใช้บริการ ไม่ว่าโดยตนเอง หรือ บุคคล อื่นตามมาตรา 78/1 แห่งประมวลรัษฎากร ที่ผู้ให้บริการทั้ง 3 บริษัท จะต้องส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้เข้าใจได้ว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นผู้ใช้บริการ แต่ไม่ต้องชำระค่าบริการและค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม ย่อมทำให้นายอภิสิทธิ์ ได้ประโยชน์ในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ต้องชำระค่าบริการ
อย่างไรก็ตาม อยากให้กระทรวงการคลัง สั่งการไปยังกรมสรรพากร ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ พร้อมให้เปิดเผยข้อมูลการเสียภาษีบุคคลธรรมดาของนายอภิสิทธิ์ ด้วย
ทั้งนี้ บริษัททั้ง 3 ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเอง เข้าลักษณะการใช้บริการ ไม่ว่าโดยตนเอง หรือ บุคคล อื่นตามมาตรา 78/1 แห่งประมวลรัษฎากร ที่ผู้ให้บริการทั้ง 3 บริษัท จะต้องส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้เข้าใจได้ว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นผู้ใช้บริการ แต่ไม่ต้องชำระค่าบริการและค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม ย่อมทำให้นายอภิสิทธิ์ ได้ประโยชน์ในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ต้องชำระค่าบริการ
อย่างไรก็ตาม อยากให้กระทรวงการคลัง สั่งการไปยังกรมสรรพากร ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ พร้อมให้เปิดเผยข้อมูลการเสียภาษีบุคคลธรรมดาของนายอภิสิทธิ์ ด้วย