นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานมอบป้ายประกาศร้านทองธงฟ้าราคายุติธรรม น้ำหนักมาตรฐาน ซึ่งกรมการค้าภายในร่วมกับร้านค้าทองย่านเยาวราชจัดทำโครงการนี้ เมื่อประชาชนมาซื้อทองและเห็นป้ายร้านค้าทองธงฟ้าจะได้รับส่วนลดค่ากำเหน็จ โดยทอง 1 บาท จะลดค่ากำเหน็จอย่างน้อย 100 บาท ซึ่งทางกรมฯ จะเร่งปิดป้ายและรณรงค์โครงการดังกล่าว เพราะถือเป็นการช่วยเหลือธุรกิจค้าทองและช่างทองให้มีงานทำอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีร้านค้าทองทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการแล้ว 307 ร้าน
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า วันนี้ (18 มิ.ย.) จะมีร้านค้าทองย่านเยาวราช 8 ราย ลดค่ากำเหน็จให้กับประชาชนทันที โดยทอง 1 บาท จะลดค่ากำเหน็จ 100 บาท หรือขึ้นอยู่กับราคาทอง
สำหรับราคาทองคำขณะนี้นักลงทุนหันกลับมาซื้อขายทองคำมากขึ้น ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกมีโอกาสทำนิวไฮทะลุ 1,060 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ และราคาขายปลีกทองคำในประเทศมีโอกาสสูงถึงบาทละ 17,000 บาท โดยเป็นไปได้ยากที่จะกลับมาอยู่ที่บาทละ 13,000 บาท
นายจิตติ กล่าวอีกว่า โดยภาพรวมราคาขายปลีกทองคำในประเทศปีนี้และปีหน้ามีโอกาสอยู่ที่ระดับบาทละ 15,000-17,000 บาท อย่างไรก็ตาม แม้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่สนใจซื้อทองรูปพรรณมากนัก ส่วนมากจะซื้อทองคำแท่งเพื่อเก็งกำไร ซึ่งตลาดทองตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ ส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะนำทองคำมาขายมากกว่าการซื้อ แต่ถือเป็นเหตุการณ์ปกติ
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า วันนี้ (18 มิ.ย.) จะมีร้านค้าทองย่านเยาวราช 8 ราย ลดค่ากำเหน็จให้กับประชาชนทันที โดยทอง 1 บาท จะลดค่ากำเหน็จ 100 บาท หรือขึ้นอยู่กับราคาทอง
สำหรับราคาทองคำขณะนี้นักลงทุนหันกลับมาซื้อขายทองคำมากขึ้น ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกมีโอกาสทำนิวไฮทะลุ 1,060 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ และราคาขายปลีกทองคำในประเทศมีโอกาสสูงถึงบาทละ 17,000 บาท โดยเป็นไปได้ยากที่จะกลับมาอยู่ที่บาทละ 13,000 บาท
นายจิตติ กล่าวอีกว่า โดยภาพรวมราคาขายปลีกทองคำในประเทศปีนี้และปีหน้ามีโอกาสอยู่ที่ระดับบาทละ 15,000-17,000 บาท อย่างไรก็ตาม แม้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่สนใจซื้อทองรูปพรรณมากนัก ส่วนมากจะซื้อทองคำแท่งเพื่อเก็งกำไร ซึ่งตลาดทองตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ ส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะนำทองคำมาขายมากกว่าการซื้อ แต่ถือเป็นเหตุการณ์ปกติ
