เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักอนามัย กทม. ได้นำแพทย์ และพยาบาล มาฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ให้ข้าราชการ และผู้สื่อข่าว โดยมีข้าราชการรดับสูงให้ความสนใจร่วมฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก อาทิ นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าฯ กทม. นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม. เป็นต้น
โดย พ.ญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า การนำเจ้าหน้าที่มาฉีดวัคซีนให้แก่ข้าราชการ และผู้สื่อข่าวในวันนี้ เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และหวัดทั่วไปที่มีโอกาสเกิดได้ง่ายในช่วงฤดูฝน แม้วัคซีนดังกล่าวจะไม่สามารถป้องกันโรคหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้ แต่อย่างน้อยที่สุดเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดธรรมดาก่อน หากโชคร้ายเกิดติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 ก็จะได้ไม่มีอาการแพ้เพิ่มมากขึ้น และขณะนี้ทาง กทม.เตรียมวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ไว้ 46,000 โดส เพื่อให้เจ้าหน้าที่จากสำนักอนามัยได้ลงไปฉีดให้ประชาชนในชุมชนต่างๆ ทั่ว กทม. จะเริ่มลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป ส่วนในการป้องกันไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 ของ กทม.
พ.ญ.มาลินี กล่าวว่า สถานการณ์ของโรคในตอนนี้ยังไม่รุนแรงมากนัก ทาง กทม.คงต้องเฝ้าระวัง ดูสถิติการแพร่กระจายของโรคไปก่อน แต่หากสถานการณ์แพร่ระบาดอย่างรุนแรง อาจจะต้องออกเป็นข้อบังคับใช้ใน กทม.ที่ทุกสถานที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากสถานการณ์รุนแรงก็สามารถออกข้อปฏิบัติได้ทันที พร้อมกับขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 แม้ตอนนี้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศมากขึ้น แต่ก็เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ เพียงแค่รู้จักป้องกันตนเอง และรักษาสุขอนามัยก็สามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 ได้
โดย พ.ญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า การนำเจ้าหน้าที่มาฉีดวัคซีนให้แก่ข้าราชการ และผู้สื่อข่าวในวันนี้ เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และหวัดทั่วไปที่มีโอกาสเกิดได้ง่ายในช่วงฤดูฝน แม้วัคซีนดังกล่าวจะไม่สามารถป้องกันโรคหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้ แต่อย่างน้อยที่สุดเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดธรรมดาก่อน หากโชคร้ายเกิดติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 ก็จะได้ไม่มีอาการแพ้เพิ่มมากขึ้น และขณะนี้ทาง กทม.เตรียมวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ไว้ 46,000 โดส เพื่อให้เจ้าหน้าที่จากสำนักอนามัยได้ลงไปฉีดให้ประชาชนในชุมชนต่างๆ ทั่ว กทม. จะเริ่มลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป ส่วนในการป้องกันไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 ของ กทม.
พ.ญ.มาลินี กล่าวว่า สถานการณ์ของโรคในตอนนี้ยังไม่รุนแรงมากนัก ทาง กทม.คงต้องเฝ้าระวัง ดูสถิติการแพร่กระจายของโรคไปก่อน แต่หากสถานการณ์แพร่ระบาดอย่างรุนแรง อาจจะต้องออกเป็นข้อบังคับใช้ใน กทม.ที่ทุกสถานที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากสถานการณ์รุนแรงก็สามารถออกข้อปฏิบัติได้ทันที พร้อมกับขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 แม้ตอนนี้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศมากขึ้น แต่ก็เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ เพียงแค่รู้จักป้องกันตนเอง และรักษาสุขอนามัยก็สามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 ได้
