นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใน 3-4 เหตุการณ์ที่ผ่านมา โดยยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ได้มาก ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำงานให้มากขึ้น เพราะผู้ก่อเหตุมีความพยายามที่จะทำให้ชาวบ้านเกิดความเข้าใจผิด ซึ่งขณะนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก และนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยในวันเสาร์นี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีจะเดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ชุดที่ลงพื้นที่จะรายงานให้ทราบ เพราะจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีภาคใต้ โดยขณะนี้ตนเองยังไม่ขอสรุปเหตุการณ์ที่ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งขอให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ ขณะเดียวกัน ได้แสดงความรู้สึกเสียใจและกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแก้ไขปัญหาให้สถานการณ์ดีขึ้น และเชื่อว่ายังสามารถรับมือกับเหตุการณ์ได้
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการยิงชาวบ้านที่มัสยิด ถือว่าไม่ใช่รูปแบบปกติตามเดิมที่ผู้ก่อเหตุเคยทำมา โดยย้ำว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับเรื่องงบประมาณ เพราะรัฐบาลยืนยันให้งบเพียงพอในการดูแลพื้นที่ภาคใต้ ส่วนแผนพัฒนาในภาคใต้ยังต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลมาเลเซีย พร้อมให้ความร่วมมือ ในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ของไทยอย่างเต็มที่ หากได้รับการร้องขอ เพราะต้องการเห็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยเกิดความสงบเรียบร้อยอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ชุดที่ลงพื้นที่จะรายงานให้ทราบ เพราะจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีภาคใต้ โดยขณะนี้ตนเองยังไม่ขอสรุปเหตุการณ์ที่ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งขอให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ ขณะเดียวกัน ได้แสดงความรู้สึกเสียใจและกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแก้ไขปัญหาให้สถานการณ์ดีขึ้น และเชื่อว่ายังสามารถรับมือกับเหตุการณ์ได้
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการยิงชาวบ้านที่มัสยิด ถือว่าไม่ใช่รูปแบบปกติตามเดิมที่ผู้ก่อเหตุเคยทำมา โดยย้ำว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับเรื่องงบประมาณ เพราะรัฐบาลยืนยันให้งบเพียงพอในการดูแลพื้นที่ภาคใต้ ส่วนแผนพัฒนาในภาคใต้ยังต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลมาเลเซีย พร้อมให้ความร่วมมือ ในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ของไทยอย่างเต็มที่ หากได้รับการร้องขอ เพราะต้องการเห็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยเกิดความสงบเรียบร้อยอีกครั้ง