นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ความเห็นถึงข้อเสนอเรื่องการยุบพรรคการเมือง ว่า การสร้างแนวทางสมานฉันท์นั้นไม่ใช่สมานฉันท์แต่นักการเมือง แต่ต้องมองการเมืองทั้งระบบ ซึ่งตนเห็นปัญหามาจากกติกาที่เขียนให้อำนาจกับบางองค์กรมากเกินไป อาทิ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดังนั้น จึงเห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขเรื่องของการยุบพรรค ที่ตนมองว่าพรรคการเมืองไม่ใช่ของนักการเมืองเท่านั้น แต่เป็นของประชาชนที่ชื่นชอบ ดังนั้น การยุบพรรคการเมืองโดยง่าย ก็จะทำให้การเมืองไม่เข้มแข็ง
ขณะที่นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย คณะกรรมการในสัดส่วนของ ส.ว. มองว่า มาตรา 237 เป็นเพียงการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย เพื่อทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ แต่จะพัฒนาเพียงนักการเมืองให้เข้มแข็ง จะทำให้การเมืองอ่อนแอไม่ได้ จึงเห็นควรให้มีการแก้ไขกฎบัญญัติเรื่องของการยุบพรรค และควรแยกผู้กระทำความผิด โดยมีมาตรการในการลงโทษขั้นรุนแรง
ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ คณะกรรมการในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เห็นควรให้คงเรื่องของการยุบพรรคและการเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้งไว้ เพราะถือเป็นความรับผิดชอบทางการเมือง แต่ควรมีการแก้ไขโดยเพิ่มมาตรการในความเป็นธรรมกับผู้ที่ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดด้วย
ขณะที่นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย คณะกรรมการในสัดส่วนของ ส.ว. มองว่า มาตรา 237 เป็นเพียงการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย เพื่อทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ แต่จะพัฒนาเพียงนักการเมืองให้เข้มแข็ง จะทำให้การเมืองอ่อนแอไม่ได้ จึงเห็นควรให้มีการแก้ไขกฎบัญญัติเรื่องของการยุบพรรค และควรแยกผู้กระทำความผิด โดยมีมาตรการในการลงโทษขั้นรุนแรง
ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ คณะกรรมการในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เห็นควรให้คงเรื่องของการยุบพรรคและการเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้งไว้ เพราะถือเป็นความรับผิดชอบทางการเมือง แต่ควรมีการแก้ไขโดยเพิ่มมาตรการในความเป็นธรรมกับผู้ที่ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดด้วย