สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทั้ง 5 รวมทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต่างเห็นชอบในหลักการให้คว่ำบาตรเกาหลีเหนือที่จงใจฝ่าฝืนมติสหประชาชาติ ด้วยการทดลองอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยคาดว่าอาจมีการลงมติเห็นชอบมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือครั้งใหม่ภายในสัปดาห์หน้า
ซูซาน ไรซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติเผยเมื่อวานนี้ (28) ว่า ผู้แทนชาติสมาชิกถาวรทั้ง5ของคณะมนตรีความมั่นคง อันได้แก่ สหรัฐฯ รัสเซีย จีน อังกฤษ และฝรั่งเศส พร้อมด้วยผู้แทนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ต่างเห็นชอบในหลักการให้มีมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือครั้งใหม่แล้ว เพื่อตอบโต้รัฐบาลเกาหลีเหนือที่ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ใต้พื้นดิน และทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้อีก 6 ลูกต่อเนื่องตั้งแต่วันจันทร์(25)ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวซึ่งเป็นนักการทูตตะวันตกรายหนึ่งเปิดเผยว่า ร่างญัตติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือที่จะหมุนเวียนให้ชาติสมาชิกทั้ง15 ชาติในคณะมนตรีความมั่นคงฯ ได้แสดงความเห็นและลงมตินั้นไม่น่าจะมีผลบังคับใช้ได้ทันในสัปดาห์นี้ แต่คาดว่าน่าจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นสัปดาห์หน้า
นักการทูตรายนี้ระบุว่ามาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้จะครอบคลุมถึงการห้ามเกาหลีเหนือนำเข้า-ส่งออกอาวุธทุกประเภท การยึดทรัพย์สินของเกาหลีเหนือในต่างแดน รวมทั้ง การขึ้นบัญชีดำห้ามบรรดาแกนนำระดับสูงในรัฐบาลเกาหลีเหนือเดินทางออกนอกประเทศ โดยมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้เป็นการขยายขอบข่ายของมติที่1718 ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะมนตรีความมั่นคงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2006 หลังเกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์ครั้งแรก
ซูซาน ไรซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติเผยเมื่อวานนี้ (28) ว่า ผู้แทนชาติสมาชิกถาวรทั้ง5ของคณะมนตรีความมั่นคง อันได้แก่ สหรัฐฯ รัสเซีย จีน อังกฤษ และฝรั่งเศส พร้อมด้วยผู้แทนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ต่างเห็นชอบในหลักการให้มีมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือครั้งใหม่แล้ว เพื่อตอบโต้รัฐบาลเกาหลีเหนือที่ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ใต้พื้นดิน และทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้อีก 6 ลูกต่อเนื่องตั้งแต่วันจันทร์(25)ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวซึ่งเป็นนักการทูตตะวันตกรายหนึ่งเปิดเผยว่า ร่างญัตติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือที่จะหมุนเวียนให้ชาติสมาชิกทั้ง15 ชาติในคณะมนตรีความมั่นคงฯ ได้แสดงความเห็นและลงมตินั้นไม่น่าจะมีผลบังคับใช้ได้ทันในสัปดาห์นี้ แต่คาดว่าน่าจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นสัปดาห์หน้า
นักการทูตรายนี้ระบุว่ามาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้จะครอบคลุมถึงการห้ามเกาหลีเหนือนำเข้า-ส่งออกอาวุธทุกประเภท การยึดทรัพย์สินของเกาหลีเหนือในต่างแดน รวมทั้ง การขึ้นบัญชีดำห้ามบรรดาแกนนำระดับสูงในรัฐบาลเกาหลีเหนือเดินทางออกนอกประเทศ โดยมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้เป็นการขยายขอบข่ายของมติที่1718 ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะมนตรีความมั่นคงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2006 หลังเกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์ครั้งแรก