นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สรุปสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2552 ว่า มียอดคงค้าง 3,692,693 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.97 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,364,783 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,013,856 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 200,113 ล้านบาท หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 110,258 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 3,683 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2552 หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 83,868 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้น 77,841 ล้านบาท และ 17,684 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 11,395 ล้านบาท และ 262 ล้านบาท ตามลำดับ โดยหนี้สาธารณะดังกล่าว แยกเป็นหนี้ต่างประเทศ 384,941 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.42 และหนี้ในประเทศ 3,307,752 ล้านบาท หรือร้อยละ 89.58 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,333,881 ล้านบาท หรือร้อยละ 90.28 และหนี้ระยะสั้น 358,812 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.72 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2552 หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 83,868 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้น 77,841 ล้านบาท และ 17,684 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 11,395 ล้านบาท และ 262 ล้านบาท ตามลำดับ โดยหนี้สาธารณะดังกล่าว แยกเป็นหนี้ต่างประเทศ 384,941 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.42 และหนี้ในประเทศ 3,307,752 ล้านบาท หรือร้อยละ 89.58 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,333,881 ล้านบาท หรือร้อยละ 90.28 และหนี้ระยะสั้น 358,812 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.72 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง