นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัว หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้ โฆษกพรรคเพื่อไทยกรณีที่ออกมาระบุว่านายกรัฐมนตรีดำเนินการ 2 มาตรฐาน ว่า ความจริงแล้วการบริหารประเทศแบบ 2 มาตรฐาน เกิดขึ้นในยุคของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เห็นได้จากการสั่งโยกย้ายข้าราชการ การแก้ไขกฎหมายสรรพสามิตเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองและธุรกิจของครอบครัว โดยเฉพาะ การหลีกเลี่ยงภาษีของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมกันนี้ ยังได้ตั้งฉายาโฆษกพรรคเพื่อไทย ด้วยว่า "เจ้าจ๋อจ้อหน้าจอ"
นอกจากนี้ นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ออกมายืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ถือพาสปอร์ตของประเทศกัมพูชา และเยอรมนี ซึ่งไม่ตรงกับการให้สัมภาษณ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ก่อนหน้านี้ออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถือพาสปอร์ตของทั้ง 2 ประเทศ ขณะเดียวกันยืนยันว่า รัฐบาลของจีน และฮ่องกง พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยกรณีติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งหากทางพรรคเพื่อไทยไม่เชื่อก็พิสูจน์ได้ โดยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปยัง 2 ประเทศนี้
นอกจากนี้ นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ออกมายืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ถือพาสปอร์ตของประเทศกัมพูชา และเยอรมนี ซึ่งไม่ตรงกับการให้สัมภาษณ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ก่อนหน้านี้ออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถือพาสปอร์ตของทั้ง 2 ประเทศ ขณะเดียวกันยืนยันว่า รัฐบาลของจีน และฮ่องกง พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยกรณีติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งหากทางพรรคเพื่อไทยไม่เชื่อก็พิสูจน์ได้ โดยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปยัง 2 ประเทศนี้