นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงรอยต่อระหว่างฤดูร้อนและฤดูฝน สภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวน และมักเกิดฟ้าผ่าบ่อยครั้ง โดยกว่า 1 ใน 3 ของผู้ที่ถูกฟ้าผ่ามักเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีลักษณะคล้ายกับการถูกกระแสไฟฟ้ามากกว่า 200,000 แอมแปร์ ดูดหรือช็อต ส่งผลให้ช็อกหมดสติ หัวใจหยุดเต้น และก้านสมองไม่ทำงาน
ทั้งนี้ หากประชาชนอยู่กลางแจ้งห้ามหลบใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้ป้ายโฆษณา วัสดุคอนกรีต และเสาไฟฟ้าแรงสูงที่มีส่วนประกอบหลักเป็นโลหะอย่างเด็ดขาด ควรนั่งหมอบ ย่อตัวให้ต่ำ และชิดกับพื้นให้มากที่สุด แต่ไม่ควรนอนราบกับพื้น หลีกเลี่ยงการพกพาหรือสวมใส่วัสดุที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า เช่น เครื่องประดับประเภทเงิน ทองคำ ทองแดง นาก สร้อยโลหะ กำไร และร่มที่ส่วนยอดเป็นโลหะ ตลอดจนห้ามอยู่ใกล้ หรือใช้อุปกรณ์ที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า เช่น เครื่องมือการเกษตร โทรศัพท์มือถือ และโทรศัพท์สาธารณะ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้มีส่วนประกอบที่เป็นแผ่นโลหะ สายอากาศ และแบตเตอรีที่เป็นตัวล่อไฟฟ้า จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่าได้
กรณีอยู่ในอาคาร ควรหลบในอาคารที่ติดตั้งสายล่อฟ้า ไม่ควรใช้โทรศัพท์ เปิดคอมพิวเตอร์ เล่นอินเทอร์เน็ต ดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ หรืออยู่ใกล้ประตู หน้าต่างที่มีส่วนประกอบเป็นโลหะ ในขณะฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หลีกเลี่ยงการเปิดใช้เครื่องไฟฟ้าทุกชนิด โดยเฉพาะเครื่องทำน้ำอุ่น การใช้โทรศัพท์มือถือขณะชาร์จแบตเตอรี ในช่วงที่เกิดพายะฝนฟ้าคะนอง เพราะกระแสไฟฟ้าจากฟ้าผ่าอาจไหลผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสื่อไฟฟ้าต่างๆ ทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้
ส่วนกรณีอยู่ในรถ ควรปิดกระจกทุกบาน หากฟ้าผ่าลงรถ ควรตั้งสติให้มั่น ไม่ควรออกจากรถโดยเด็ดขาด เพราะกระแสไฟฟ้าที่ไหลตามผิวโลหะของตัวรถจะไหลลงสู่พื้นดิน หากวิ่งออกนอกรถจะมีความเสี่ยงถูกฟ้าผ่าสูง การหลบฟ้าผ่าในรถจึงเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด
สำหรับวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า คือ การหลีกเลี่ยงอยู่ใกล้บริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า เช่น ที่โล่งแจ้ง บริเวณที่มีวัสดุที่เป็นตัวนำประจุไฟฟ้า รวมถึงหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้ถูกฟ้าผ่าในช่วงฝนฟ้าคะนอง
ทั้งนี้ หากประชาชนอยู่กลางแจ้งห้ามหลบใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้ป้ายโฆษณา วัสดุคอนกรีต และเสาไฟฟ้าแรงสูงที่มีส่วนประกอบหลักเป็นโลหะอย่างเด็ดขาด ควรนั่งหมอบ ย่อตัวให้ต่ำ และชิดกับพื้นให้มากที่สุด แต่ไม่ควรนอนราบกับพื้น หลีกเลี่ยงการพกพาหรือสวมใส่วัสดุที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า เช่น เครื่องประดับประเภทเงิน ทองคำ ทองแดง นาก สร้อยโลหะ กำไร และร่มที่ส่วนยอดเป็นโลหะ ตลอดจนห้ามอยู่ใกล้ หรือใช้อุปกรณ์ที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า เช่น เครื่องมือการเกษตร โทรศัพท์มือถือ และโทรศัพท์สาธารณะ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้มีส่วนประกอบที่เป็นแผ่นโลหะ สายอากาศ และแบตเตอรีที่เป็นตัวล่อไฟฟ้า จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่าได้
กรณีอยู่ในอาคาร ควรหลบในอาคารที่ติดตั้งสายล่อฟ้า ไม่ควรใช้โทรศัพท์ เปิดคอมพิวเตอร์ เล่นอินเทอร์เน็ต ดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ หรืออยู่ใกล้ประตู หน้าต่างที่มีส่วนประกอบเป็นโลหะ ในขณะฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หลีกเลี่ยงการเปิดใช้เครื่องไฟฟ้าทุกชนิด โดยเฉพาะเครื่องทำน้ำอุ่น การใช้โทรศัพท์มือถือขณะชาร์จแบตเตอรี ในช่วงที่เกิดพายะฝนฟ้าคะนอง เพราะกระแสไฟฟ้าจากฟ้าผ่าอาจไหลผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสื่อไฟฟ้าต่างๆ ทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้
ส่วนกรณีอยู่ในรถ ควรปิดกระจกทุกบาน หากฟ้าผ่าลงรถ ควรตั้งสติให้มั่น ไม่ควรออกจากรถโดยเด็ดขาด เพราะกระแสไฟฟ้าที่ไหลตามผิวโลหะของตัวรถจะไหลลงสู่พื้นดิน หากวิ่งออกนอกรถจะมีความเสี่ยงถูกฟ้าผ่าสูง การหลบฟ้าผ่าในรถจึงเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด
สำหรับวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า คือ การหลีกเลี่ยงอยู่ใกล้บริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า เช่น ที่โล่งแจ้ง บริเวณที่มีวัสดุที่เป็นตัวนำประจุไฟฟ้า รวมถึงหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้ถูกฟ้าผ่าในช่วงฝนฟ้าคะนอง
