นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการที่สภาฯ มีมติให้ขอความเห็นศาลรัฐธรรมนูญเรื่อง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ในวงเงินไม่เกิน 4 แสนล้านบาท โดยยอมรับว่า หากผลออกมาศาลไม่เห็นด้วย รัฐบาลอาจจะออกเป็น พ.ร.ก.ใหม่เฉพาะที่จำเป็นเร่งด่วนที่สุด หรืออาจเปลี่ยนเป็น พ.ร.บ.ก็ทำได้ แต่ยอมรับว่าอาจส่งผลกระทบต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและนักลงทุน ที่อาจจะเริ่มไม่แน่ใจว่าจะเริ่มลงทุนได้เมื่อไร เนื่องจากเวลาผ่านไปทุกขณะ
อย่างไรก็ตาม นายกอร์ปศักดิ์ ยอมรับว่า กรณีที่รัฐบาลออกกฎหมายมาแล้วตกไปต้องรับผิดชอบหรือไม่นั้น อาจจะมีการพูดถึงกันบ้าง แต่ข้อเท็จจริงคือกฎหมายยังไม่ได้ออก ซึ่งถ้าออกมาแล้วและถูกคว่ำกลางสภาฯ นั่นคือเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ แต่กรณีนี้คือรัฐบาลจะกฎหมาย แต่มีผู้ท้วงว่ารัฐบาลไม่มีสิทธิ์ออก ซึ่งแตกต่างกัน และรัฐบาลในอดีตก็เคยมีปัญหาแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไรเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นายกอร์ปศักดิ์ ยอมรับว่า กรณีที่รัฐบาลออกกฎหมายมาแล้วตกไปต้องรับผิดชอบหรือไม่นั้น อาจจะมีการพูดถึงกันบ้าง แต่ข้อเท็จจริงคือกฎหมายยังไม่ได้ออก ซึ่งถ้าออกมาแล้วและถูกคว่ำกลางสภาฯ นั่นคือเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ แต่กรณีนี้คือรัฐบาลจะกฎหมาย แต่มีผู้ท้วงว่ารัฐบาลไม่มีสิทธิ์ออก ซึ่งแตกต่างกัน และรัฐบาลในอดีตก็เคยมีปัญหาแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไรเช่นกัน