นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีเรือนจำทั่วประเทศ 140 แห่ง มีนักโทษในเรือนจำประมาณ 5,000 คน ในแต่ละวันมีญาติมาเยี่ยมประมาณ 1,000 คน และมีรถเข้ามาส่งของในการปฏิบัติวิชาชีพภายในเรือนจำอยู่เป็นประจำทุกวัน โดยยอมรับว่าภารกิจประจำวันดังกล่าวทำให้เกิดช่องว่างในการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาภายในเรือนจำได้อย่างง่ายดาย แม้จะตรวจสอบอย่างเข้มงวดก็ตาม จึงจำเป็นต้องมีมาตรการเฝ้าระวังยาเสพติดในเรือนจำ โดยมาตรการระยะสั้น เมื่อตรวจสอบพบว่ามีนักโทษลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในเรือนจำ ต้องแยกนักโทษไปคุมเข้มเดี่ยว หรือพบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะถูกควบตัวด้วยเช่นกัน เพื่อตัดเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำ
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก ขยายผลการป้องกันปราบปรามยาเสพติดด้วยวิธีการตรวจค้นอย่างจู่โจม หรือ Big Cleanning Day จากการดำเนินการเป็นระยะเวลา 2 เดือน สามารถกวาดล้างตรวจค้นป้องกันสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในเรือนจำได้เป็นจำนวนมาก
ส่วนมาตรการถาวร เรือนจำต้องมีความมั่นคงสูง ควรแยกออกไปตั้งอยู่บนพื้นที่ห่างไกล เนื่องจากข้อเสียของเรือนจำที่อยู่ในเมืองเป็นอุปสรรคต่อการเปิดเครื่องดักสัญญาณ ซึ่งทำได้ไม่ได้เต็มที่ นอกจากนี้ ยังสามารถกันพื้นที่รอบนอกไม่ให้ใครเข้ามาติดต่อ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีต่างๆ จะทำได้สะดวกยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก ขยายผลการป้องกันปราบปรามยาเสพติดด้วยวิธีการตรวจค้นอย่างจู่โจม หรือ Big Cleanning Day จากการดำเนินการเป็นระยะเวลา 2 เดือน สามารถกวาดล้างตรวจค้นป้องกันสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในเรือนจำได้เป็นจำนวนมาก
ส่วนมาตรการถาวร เรือนจำต้องมีความมั่นคงสูง ควรแยกออกไปตั้งอยู่บนพื้นที่ห่างไกล เนื่องจากข้อเสียของเรือนจำที่อยู่ในเมืองเป็นอุปสรรคต่อการเปิดเครื่องดักสัญญาณ ซึ่งทำได้ไม่ได้เต็มที่ นอกจากนี้ ยังสามารถกันพื้นที่รอบนอกไม่ให้ใครเข้ามาติดต่อ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีต่างๆ จะทำได้สะดวกยิ่งขึ้น
