นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังพระราชกำหนดการขยายเพดานการจัดเก็บภาษีบุหรี่และน้ำมัน มีผลเมื่อเวลา 24.00 น.ที่ผ่านมา ทำให้เพดานการจัดเก็บภาษีบุหรี่ในขณะนี้มีเพดานอยู่ที่ร้อยละ 90 และภาษีสรรพสามิตน้ำมันขยายเป็น 10 บาทต่อลิตร อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงการคลังจะมีการออกกฎกระทรวงในวันนี้ ในการจัดเก็บภาษีบุหรี่เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 5 ทำให้ภาษีการจัดเก็บบุหรี่อยู่ที่ร้อยละ 85 และภาษีสรรพสามิตน้ำมัน จะเก็บเพิ่มขึ้น 12 บาท ทำให้การจัดเก็บภาษีน้ำมันอยู่ที่ 7 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้ ในส่วนของราคาบุหรี่ ทางกระทรวงเตรียมออกกฎกระทรวงจะทำให้ราคาบุหรี่ขายปลีกไทยปรับขึ้นซองละ 10-13 บาท และบุหรี่ต่างประเทศปรับขึ้นไม่เกินซองละ 15-17 บาท ซึ่งการปรับราคานั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละราย
นายพฤฒิชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดเก็บภาษีในส่วนของน้ำมันจะไม่กระทบกับราคาขายปลีก เนื่องจากไม่ให้กองทุนน้ำมันลดการเก็บเงินสมทบให้เข้ากับภาษีที่มีการเก็บเพิ่ม พร้อมยืนยันว่า เงินของกองทุนน้ำมันมีเพียงพอต่อการรองรับในการพยุงราคาในครั้งนี้
ทั้งนี้ ในส่วนของราคาบุหรี่ ทางกระทรวงเตรียมออกกฎกระทรวงจะทำให้ราคาบุหรี่ขายปลีกไทยปรับขึ้นซองละ 10-13 บาท และบุหรี่ต่างประเทศปรับขึ้นไม่เกินซองละ 15-17 บาท ซึ่งการปรับราคานั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละราย
นายพฤฒิชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดเก็บภาษีในส่วนของน้ำมันจะไม่กระทบกับราคาขายปลีก เนื่องจากไม่ให้กองทุนน้ำมันลดการเก็บเงินสมทบให้เข้ากับภาษีที่มีการเก็บเพิ่ม พร้อมยืนยันว่า เงินของกองทุนน้ำมันมีเพียงพอต่อการรองรับในการพยุงราคาในครั้งนี้