นายสมศักดิ์ ฐิติยารักษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จ.พระนครศรีอยุธยา เขต 1 กล่าวว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สาย จ.เชียงราย ยึดบัตรประจำตัวนักเรียน ที่ระบุว่าเป็นของโรงเรียนวัดบางเพลิง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา จากเด็กชาวพม่า 11 คน ที่แต่งกายชุดนักเรียน และอ้างว่าต้องการเดินทางไปยังวัดบางเพลิงเพื่อเรียนหนังสือ ซึ่งการออกบัตรประจำตัวนักเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของราชการ ที่ต้องผ่านการตรวจสอบหลักฐานมาจากทางโรงเรียนและอำเภอ
พระครูปลัดแฉล้ม ฐานวโร เจ้าอาวาสวัดบางเพลิง อ้างว่า ไม่ทราบว่าเด็กที่ถูกจับเป็นชาวพม่า และไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับรายชื่อของนักเรียนในวัด เนื่องจากเด็กส่วนใหญ่เดินทางมากันเอง
ขณะที่ชาวบ้านบางคนซึ่งอยู่ใกล้วัดบางเพลิง กล่าวว่า ทราบว่าทางวัดอุปการะเด็กด้อยโอกาส ซึ่งเป็นเด็กชาวเขา แต่ไม่ทราบว่ามีเด็กชาวพม่าด้วยหรือไม่ ขณะที่บางคน กล่าวว่า วัดบางเพลิงมีเด็กชาวพม่าอาศัยอยู่จริง โดยเด็กส่วนใหญ่ที่ไปอยู่จะได้เรียนหนังสือ และได้รับบริจาคสิ่งของ รวมทั้งเงิน จากหน่วยงานและบุคคลภายนอก ผ่านทางวัด
พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.พระนครศรีอยุธยา เตรียมตรวจสอบข้อเท็จจริงของเด็กวัดบางเพลิง และการจัดการของวัด ขณะนี้ได้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเข้าตรวจสอบ โดยยืนยันว่า จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับเจ้าอาวาส และบุคคลที่เกี่ยวข้อง หากพบว่ามีเด็กชาวพม่าอาศัยอยู่ในวัดจริง
โดยเมื่อปี 2530 โรงเรียนวัดบางเพลิงจะถูกยุบ เนื่องจากเหลือนักเรียนเพียง 16 คน พระครูปลัดแฉล้ม เจ้าอาวาส จึงได้ไปขอเด็กกำพร้าชาวเขาจากวัดสระแก้ว จ.อ่างทอง มาอยู่ในความอุปการะหลายสิบคน เนื่องจากไม่ต้องการให้โรงเรียนถูกยุบ ปัจจุบันโรงเรียนวัดบางเพลิงมีนักเรียนกว่า 100 คน
พระครูปลัดแฉล้ม ฐานวโร เจ้าอาวาสวัดบางเพลิง อ้างว่า ไม่ทราบว่าเด็กที่ถูกจับเป็นชาวพม่า และไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับรายชื่อของนักเรียนในวัด เนื่องจากเด็กส่วนใหญ่เดินทางมากันเอง
ขณะที่ชาวบ้านบางคนซึ่งอยู่ใกล้วัดบางเพลิง กล่าวว่า ทราบว่าทางวัดอุปการะเด็กด้อยโอกาส ซึ่งเป็นเด็กชาวเขา แต่ไม่ทราบว่ามีเด็กชาวพม่าด้วยหรือไม่ ขณะที่บางคน กล่าวว่า วัดบางเพลิงมีเด็กชาวพม่าอาศัยอยู่จริง โดยเด็กส่วนใหญ่ที่ไปอยู่จะได้เรียนหนังสือ และได้รับบริจาคสิ่งของ รวมทั้งเงิน จากหน่วยงานและบุคคลภายนอก ผ่านทางวัด
พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.พระนครศรีอยุธยา เตรียมตรวจสอบข้อเท็จจริงของเด็กวัดบางเพลิง และการจัดการของวัด ขณะนี้ได้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเข้าตรวจสอบ โดยยืนยันว่า จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับเจ้าอาวาส และบุคคลที่เกี่ยวข้อง หากพบว่ามีเด็กชาวพม่าอาศัยอยู่ในวัดจริง
โดยเมื่อปี 2530 โรงเรียนวัดบางเพลิงจะถูกยุบ เนื่องจากเหลือนักเรียนเพียง 16 คน พระครูปลัดแฉล้ม เจ้าอาวาส จึงได้ไปขอเด็กกำพร้าชาวเขาจากวัดสระแก้ว จ.อ่างทอง มาอยู่ในความอุปการะหลายสิบคน เนื่องจากไม่ต้องการให้โรงเรียนถูกยุบ ปัจจุบันโรงเรียนวัดบางเพลิงมีนักเรียนกว่า 100 คน