พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 นำตัวแก๊งคนร้ายที่ปล้นร้ายทองเยาวราชเมืองพัทยา มาแถลงข่าวประกอบด้วย นายกมล แสงเพิ่ม หัวหน้าแก๊ง นายสุรชาติ ยอดทอง คนขับรถ และนายเกษม กลิ่นดี เจ้าของรถ พร้อมอาวุธสงครามและเครื่องกระสุน อุปกรณ์ต่างๆ จำนวน 42 รายการ ทองรูปพรรณจำนวน 32 เส้น น้ำหนักรวม 40 บาท
โดยนายกมล บอกว่า ได้วางแผนล่วงหน้าเพียง 1 วัน ก่อนลงมือก่อเหตุปล้นร้านทอง โดยสาเหตุที่ต้องทำ เพราะต้องการหาเงินใช้จ่ายในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ส่วนอาวุธปืนทั้งหมดได้สะสมมาเป็นเวลานานแล้ว ส่วนท่าฝึกยิงเรียนรู้มาสมัยเรียน รด. และยามว่างก็จะเข้าไปในหุบเขา เพื่อฝึกซ้อมเป็นประจำ
ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา ก็มีโทรศัพท์ข่มขู่จากชายลึกลับว่า จะพาพวกพร้อมด้วยอาวุธสงครามครบมือ มาบุกถล่มที่ สภ.ย่อยโค้งดงตาลเมืองพัทยา เพื่อแก้แค้นให้แก๊งคนร้ายปล้นร้านทองเยาวราชที่ถูกจับกุม จนเจ้าหน้าที่ต้องวางกำลังตามจุดต่างๆ ใกล้เคียงกับ สภ.ย่อยโค้งดงตาล เตรียมรับมือคนร้าย จนเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังออกตรวจสอบ และป้องกันเหตุในเขตพื้นที่รับผิดชอบตามปกติ
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำนายกมล และนายสุรชาติไปทำแผน ส่วนนายเกษมปฏิเสธข้อกล่าวหา และขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับคนร้ายเพิ่มอีก 2 คน
โดยนายกมล บอกว่า ได้วางแผนล่วงหน้าเพียง 1 วัน ก่อนลงมือก่อเหตุปล้นร้านทอง โดยสาเหตุที่ต้องทำ เพราะต้องการหาเงินใช้จ่ายในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ส่วนอาวุธปืนทั้งหมดได้สะสมมาเป็นเวลานานแล้ว ส่วนท่าฝึกยิงเรียนรู้มาสมัยเรียน รด. และยามว่างก็จะเข้าไปในหุบเขา เพื่อฝึกซ้อมเป็นประจำ
ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา ก็มีโทรศัพท์ข่มขู่จากชายลึกลับว่า จะพาพวกพร้อมด้วยอาวุธสงครามครบมือ มาบุกถล่มที่ สภ.ย่อยโค้งดงตาลเมืองพัทยา เพื่อแก้แค้นให้แก๊งคนร้ายปล้นร้านทองเยาวราชที่ถูกจับกุม จนเจ้าหน้าที่ต้องวางกำลังตามจุดต่างๆ ใกล้เคียงกับ สภ.ย่อยโค้งดงตาล เตรียมรับมือคนร้าย จนเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังออกตรวจสอบ และป้องกันเหตุในเขตพื้นที่รับผิดชอบตามปกติ
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำนายกมล และนายสุรชาติไปทำแผน ส่วนนายเกษมปฏิเสธข้อกล่าวหา และขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับคนร้ายเพิ่มอีก 2 คน