เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเมื่อวันอังคาร(5) ผ่อนปรนคำชี้แนะปิดโรงเรียนป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อหวัดเอช1วัน1 ระบุความรุนแรงของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ไม่ได้ร้ายแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา อย่างไรก็ตามในวันเดียวกันกลับพบว่ามีผู้ติดเชื้อเสียชีวิตเป็นรายที่2ในเท็กซัส
"ผลสรุปโดยรวม ซึ่งได้ศึกษาอย่างระมัดระวัง ยังขอแนะนำให้นักเรียนที่ติดเชื้อพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านต่อไปอีก 7 วัน แต่โรงเรียนสามารถสบายใจได้มากขึ้นต่อกรณีเปิดการเรียนการสอน" นางแคธลีน เซเบเลียส รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐฯ แถลงข่าวร่วมกับ ริชาร์ด เบสเซอร์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ
"มันแสดงให้เห็นว่าโรคติดต่อนี้เป็นเหมือนกับไข้หวัดธรรมดา และในฤดูกาลหวัด โรงเรียนจะพิจารณาปิดการเรียนการสอนเมื่อมีครูและนักเรียนจำนวนมากป่วยเท่านั้น" เซเบเลียสกล่าว
แม้ยืนยันว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ไม่ได้มีอันตราย หรือน่ากลัวมากกว่าไข้หวัดธรรมดา ทว่าในอังคาร(5) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเท็กซัสออกมายืนยันพบผู้ป่วยรายที่สองในสหรัฐอเมริกาที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสเอช1เอ็น1
ทั้งนี้ผู้หญิงจากเท็กซัสรายนี้ยังเป็นพลเมืองสหรัฐฯรายแรกที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ในสหรัฐฯมีผู้เสียชีวิต 1 รายแต่เป็นเด็กทารกชาวเม็กซิโกที่เดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครองที่มาเยี่ยมครอบครัวในเมืองบราวน์ส์วิลล์ ตามแนวพรมแดน ที่ตาย ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในฮิวส์ตันเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา
"ผลสรุปโดยรวม ซึ่งได้ศึกษาอย่างระมัดระวัง ยังขอแนะนำให้นักเรียนที่ติดเชื้อพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านต่อไปอีก 7 วัน แต่โรงเรียนสามารถสบายใจได้มากขึ้นต่อกรณีเปิดการเรียนการสอน" นางแคธลีน เซเบเลียส รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐฯ แถลงข่าวร่วมกับ ริชาร์ด เบสเซอร์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ
"มันแสดงให้เห็นว่าโรคติดต่อนี้เป็นเหมือนกับไข้หวัดธรรมดา และในฤดูกาลหวัด โรงเรียนจะพิจารณาปิดการเรียนการสอนเมื่อมีครูและนักเรียนจำนวนมากป่วยเท่านั้น" เซเบเลียสกล่าว
แม้ยืนยันว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ไม่ได้มีอันตราย หรือน่ากลัวมากกว่าไข้หวัดธรรมดา ทว่าในอังคาร(5) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเท็กซัสออกมายืนยันพบผู้ป่วยรายที่สองในสหรัฐอเมริกาที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสเอช1เอ็น1
ทั้งนี้ผู้หญิงจากเท็กซัสรายนี้ยังเป็นพลเมืองสหรัฐฯรายแรกที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ในสหรัฐฯมีผู้เสียชีวิต 1 รายแต่เป็นเด็กทารกชาวเม็กซิโกที่เดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครองที่มาเยี่ยมครอบครัวในเมืองบราวน์ส์วิลล์ ตามแนวพรมแดน ที่ตาย ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในฮิวส์ตันเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา
