นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ส่วนตัวยังยืนยันว่าจำเป็นต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญแน่นอน แต่จะเป็นประเด็นใดบ้างนั้น ต้องรอดูประเด็นจากนายกรัฐมนตรีว่า พรรคการเมืองเสนอให้แก้ไขมาตราใดบ้าง ส่วนกรณีที่ปลัดกระทรวงกลาโหม เสนอให้มีการทำประชาพิจารณ์ก่อนนั้น ต้องมีรูปแบบก่อนว่าจะทำประชาพิจารณ์เรื่องอะไร แก้มาตราใดบ้าง เพราะการจะใช้เงินทำประชาพิจารณ์อีก 2,000 ล้านบาท จะได้ผลหรือไม่ แต่ปัญหาบ้านเมืองขณะนี้ต้องทำอะไรอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เห็นว่าประเด็นสำคัญเร่งด่วนที่ควรแก้ไข คือ มาตรา 237 เพื่อนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดกรณียุบพรรคการเมือง ส่วนประเด็นอื่นที่จะต้องตามมาอาจต้องไปแก้ในอนาคต ขณะนี้ต้องทำให้เกิดความสมานฉันท์โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่าใช้รัฐธรรมนูญฉบับใดมาเป็นตัวตั้ง เพราะจะทำให้เกิดการโต้แย้ง
นายประสพสุข กล่าวอีกว่า เรื่องนิรโทษกรรมต้องทำใช้ชัดเจนว่า เป็นความผิดทางการเมือง อย่าไปเอารวมผิดกับเรื่องอาญา ไม่เช่นนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ประสบผลสำเร็จ ส่วนที่ฝ่ายค้านแย้งว่า ความผิดทางอาญาเป็นฐานมาจากการปฏิวัติจึงอยากให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาใหม่ เห็นว่าคงลำบากและคงมีข้อโต้แย้ง ทำให้กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญติดขัด ดังนั้นต้องหาจุดที่ทุกคนหรือทุกฝ่ายยอมรับได้
เมื่อถามอีกว่า เป็นห่วงเรื่องความจริงใจของพรรคการเมืองที่จะฝ่าวิกฤตการเมืองหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ทุกคนน่าจริงใจ แต่คงต้องดูบรรยากาศในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งจะรู้ว่าต่างฝ่ายมีความจริงใจมากน้อยแค่ไหน
สำหรับที่ยังคงมีบางคนใช้สื่อต่างประเทศโจมตีรัฐบาลนั้น นายประสพสุข กล่าวว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งในสัปดาห์หน้า คิดว่ารัฐบาลจะมีมาตรการดูแล รวมทั้งที่มีการโจมตีเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย 2 มาตรฐานนั้น รัฐบาลจะต้องพยายามทำให้เห็นถึงการใช้กฎหมายที่เท่าเทียมกัน
นายประสพสุข กล่าวอีกว่า เรื่องนิรโทษกรรมต้องทำใช้ชัดเจนว่า เป็นความผิดทางการเมือง อย่าไปเอารวมผิดกับเรื่องอาญา ไม่เช่นนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ประสบผลสำเร็จ ส่วนที่ฝ่ายค้านแย้งว่า ความผิดทางอาญาเป็นฐานมาจากการปฏิวัติจึงอยากให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาใหม่ เห็นว่าคงลำบากและคงมีข้อโต้แย้ง ทำให้กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญติดขัด ดังนั้นต้องหาจุดที่ทุกคนหรือทุกฝ่ายยอมรับได้
เมื่อถามอีกว่า เป็นห่วงเรื่องความจริงใจของพรรคการเมืองที่จะฝ่าวิกฤตการเมืองหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ทุกคนน่าจริงใจ แต่คงต้องดูบรรยากาศในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งจะรู้ว่าต่างฝ่ายมีความจริงใจมากน้อยแค่ไหน
สำหรับที่ยังคงมีบางคนใช้สื่อต่างประเทศโจมตีรัฐบาลนั้น นายประสพสุข กล่าวว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งในสัปดาห์หน้า คิดว่ารัฐบาลจะมีมาตรการดูแล รวมทั้งที่มีการโจมตีเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย 2 มาตรฐานนั้น รัฐบาลจะต้องพยายามทำให้เห็นถึงการใช้กฎหมายที่เท่าเทียมกัน
