พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ประชุมคณะทำงานฝ่ายสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อรับฟังการทำงาน รวมทั้งการรวบรวมพยานหลักฐานในคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เบื้องต้น พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า จะขอดูพยานหลักฐานก่อน รวมทั้งมอบหมายให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้แถลงความคืบหน้าคดีต่อสื่อมวลชน
นอกจากการประชุมสอบสวนคดียิงนายสนธิแล้ว พล.ต.อ.ธานี ยังประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวน ในคดีกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม ถึงปัจจุบัน ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการประทุษร้ายต่อทรัพย์ ร่างกายและทรัพย์สิน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เช่น เรื่องการปิดล้อมทำลายรถยนต์ของนายกรัฐมนตรี ที่กระทรวงมหาดไทย การปิดกั้นการจราจร และเผาทำลายรถโดยสารประจำทาง
นอกจากนี้ ยังสั่งให้ตั้งศูนย์ติดตามจับผู้กระทำผิด ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกำชับให้พนักงานสอบสวน เร่งรัดทำคดีให้รวดเร็วและเป็นธรรม โดยพยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนมากที่สุด ซึ่งคดีของกลุ่ม นปช.นั้น หลังจากประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีการดำเนินคดีไปแล้ว 49 คดี ก่อนประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีทั้งหมด 6 คดี บางส่วนสามารถจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้แล้ว
นอกจากการประชุมสอบสวนคดียิงนายสนธิแล้ว พล.ต.อ.ธานี ยังประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวน ในคดีกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม ถึงปัจจุบัน ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการประทุษร้ายต่อทรัพย์ ร่างกายและทรัพย์สิน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เช่น เรื่องการปิดล้อมทำลายรถยนต์ของนายกรัฐมนตรี ที่กระทรวงมหาดไทย การปิดกั้นการจราจร และเผาทำลายรถโดยสารประจำทาง
นอกจากนี้ ยังสั่งให้ตั้งศูนย์ติดตามจับผู้กระทำผิด ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกำชับให้พนักงานสอบสวน เร่งรัดทำคดีให้รวดเร็วและเป็นธรรม โดยพยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนมากที่สุด ซึ่งคดีของกลุ่ม นปช.นั้น หลังจากประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีการดำเนินคดีไปแล้ว 49 คดี ก่อนประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีทั้งหมด 6 คดี บางส่วนสามารถจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้แล้ว