การประชุมสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าด้วยการเหยียดผิวและเชื้อชาติครั้งแรกในรอบ 8 ปี จะเปิดฉากในวันนี้ โดยที่สหรัฐฯ และอีกอย่างน้อย 7 ประเทศ คว่ำบาตรไม่เข้าร่วมการประชุม เพราะเกรงว่าชาติมุสลิมจะเรียกร้องให้ประณามอิสราเอล และห้ามการวิจารณ์ศาสนาอิสลาม
รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า จะคว่ำบาตรการประชุมในนครเจนีวา ที่จะดำเนินเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังจากการประชุมในประเทศแอฟริกาใต้เมื่อปี 2544 มีการทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างหนัก โดยประธานาธิบดีบารัก โอบามา กล่าวว่า อยากเข้าร่วมการประชุมที่มีประโยชน์ในการแก้ปัญหาการเหยียดสีผิว เชื้อชาติ และการเลือกปฏิบัติทั่วโลก แต่ถ้อยคำในร่างแถลงการณ์ของยูเอ็นนั้น เสี่ยงจะก่อให้เกิดความขัดแย้งเหมือนการประชุมครั้งก่อน ทั้งยังแสดงความต่อต้านอิสราเอล ขณะที่รัฐบาลประเทศมุสลิมต้องการให้ห้ามการวิจารณ์ศาสนาอิสลาม กฎหมายอิสลาม ศาสดามูฮัมหมัด และหลักความเชื่อทางศาสนาอิสลาม
นอกจากนี้ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย แคนาดา อิสราเอล และอิตาลี ต่างประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมการประชุมเช่นกัน ขณะที่ประเทศอื่นในยุโรปต่างกำลังตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมการประชุมหรือไม่ และวิจารณ์ว่าการประชุมครั้งนี้พุ่งเป้าอย่างหนักที่ชาติตะวันตก แต่กลับละเลยปัญหาการเหยียดผิวและเชื้อชาติในประเทศกำลังพัฒนา โดยอังกฤษระบุว่า จะส่งเจ้าหน้าที่การทูตเข้าร่วม แม้วิตกว่าการประชุมจะกลายเป็นเวทีในการต่อต้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของนาซี และการโจมตีผู้ต่อต้านศาสนาอิสลาม
รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า จะคว่ำบาตรการประชุมในนครเจนีวา ที่จะดำเนินเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังจากการประชุมในประเทศแอฟริกาใต้เมื่อปี 2544 มีการทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างหนัก โดยประธานาธิบดีบารัก โอบามา กล่าวว่า อยากเข้าร่วมการประชุมที่มีประโยชน์ในการแก้ปัญหาการเหยียดสีผิว เชื้อชาติ และการเลือกปฏิบัติทั่วโลก แต่ถ้อยคำในร่างแถลงการณ์ของยูเอ็นนั้น เสี่ยงจะก่อให้เกิดความขัดแย้งเหมือนการประชุมครั้งก่อน ทั้งยังแสดงความต่อต้านอิสราเอล ขณะที่รัฐบาลประเทศมุสลิมต้องการให้ห้ามการวิจารณ์ศาสนาอิสลาม กฎหมายอิสลาม ศาสดามูฮัมหมัด และหลักความเชื่อทางศาสนาอิสลาม
นอกจากนี้ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย แคนาดา อิสราเอล และอิตาลี ต่างประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมการประชุมเช่นกัน ขณะที่ประเทศอื่นในยุโรปต่างกำลังตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมการประชุมหรือไม่ และวิจารณ์ว่าการประชุมครั้งนี้พุ่งเป้าอย่างหนักที่ชาติตะวันตก แต่กลับละเลยปัญหาการเหยียดผิวและเชื้อชาติในประเทศกำลังพัฒนา โดยอังกฤษระบุว่า จะส่งเจ้าหน้าที่การทูตเข้าร่วม แม้วิตกว่าการประชุมจะกลายเป็นเวทีในการต่อต้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของนาซี และการโจมตีผู้ต่อต้านศาสนาอิสลาม
