ฟิทช์ เรทติ้งส์ ลดอันดับความน่าเชื่อทางการเงินของประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ โดยระบุว่า ความปั่นป่วนรุนแรงทางการเมืองได้บั่นทอนทำลายอำนาจรัฐและความน่าเชื่อถือในตัวผู้นำ
บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินแห่งนี้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือการชำระหนี้ระยะยาวของไทย จากระดับ BBB+ หรือทริปเปิลบีบวกลงมาเหลือ BBB หรือทริปเปิลบี และปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือการชำระหนี้ในประเทศจากระดับ A ลงมาเหลือ A-
ฟิทช์ ระบุว่า การลดความน่าเชื่อถือในครั้งนี้สะท้อน การไร้ความสามารถของรัฐบาลที่จะแก้ความไม่สงบของพลเมือง และว่าผลสะสมของความไร้เสถียรภาพทางการเมืองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกิดมาจากโครงสร้างที่อ่อนแอของระบบธรรมาภิบาลของไทย อีกทั้งได้ทำลายอำนาจรัฐและความน่าเชื่อถือในตัวผู้นำทางการเมืองของไทยอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ บริษัทสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือการชำระหนี้ในประเทศของไทยจากระดับ A ลงมาเหลือ A- และมองอนาคตเป็นด้านลบ ซึ่งสามารถถูกปรับลดอันดับลงมาได้อีก
บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินแห่งนี้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือการชำระหนี้ระยะยาวของไทย จากระดับ BBB+ หรือทริปเปิลบีบวกลงมาเหลือ BBB หรือทริปเปิลบี และปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือการชำระหนี้ในประเทศจากระดับ A ลงมาเหลือ A-
ฟิทช์ ระบุว่า การลดความน่าเชื่อถือในครั้งนี้สะท้อน การไร้ความสามารถของรัฐบาลที่จะแก้ความไม่สงบของพลเมือง และว่าผลสะสมของความไร้เสถียรภาพทางการเมืองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกิดมาจากโครงสร้างที่อ่อนแอของระบบธรรมาภิบาลของไทย อีกทั้งได้ทำลายอำนาจรัฐและความน่าเชื่อถือในตัวผู้นำทางการเมืองของไทยอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ บริษัทสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือการชำระหนี้ในประเทศของไทยจากระดับ A ลงมาเหลือ A- และมองอนาคตเป็นด้านลบ ซึ่งสามารถถูกปรับลดอันดับลงมาได้อีก