มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัวไทยทั่วประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบในการพิจารณา กรณี ครอบครัวไทย ในยุคสังคมแห่งความขัดแย้ง จำนวน 1,419 คน ระหว่าง 14-16 เมษายน 2552 พบว่าร้อยละ 92.59 เห็นว่าผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงและการควบคุม ปราบปรามของรัฐบาล ไม่มีผลต่อความสัมพันธ์ ในครอบครัว เพราะไม่นำเรื่องการเมืองเข้ามาคุยในบ้าน คุยกันด้วยเหตุผลมากกว่า ทำให้คนในครอบครัวรักกันเป็นห่วงกันมากขึ้น มีเพียงร้อยละ 7.41 เห็นว่ามีผลคือ ทำให้มีปากเสียงกันบ่อยขึ้นเมื่อพูดคุยเรื่องการเมือง ชอบคนละฝ่าย คนละสี
นอกจากนี้ ร้อยละ 62.96 เห็นว่าครอบครัวไทยท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองมีความเห็นไม่แตกต่างกัน เพราะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์วุ่นวายของบ้านเมืองเหมือนกัน ร้อยละ 37.04 เห็นว่าแตกต่าง เพราะความคิดเห็นและมุมมองเกี่ยวกับการเมืองไม่เหมือนกัน เมื่อถามว่าครอบครัวไทย มีความคิดเห็นต่อการชุมนุมประท้วง ที่แตกต่างกันหรือไม่พบว่าร้อยละ 74.08 เห็นว่าไม่แตกต่างเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนให้บ้านเมืองอย่างมาก ร้อยละ 25.92 ระบุว่าแตกต่าง คือ มองว่าเป็นสิทธิส่วนตัวที่สามารถทำได้ ส่วนคำถามว่ามีความเห็นต่อรัฐบาลในการควบคุมและปราบปรามผู้ประท้วงแตกต่างกันหรือไม่พบว่าร้อยละ 70.37 เห็นว่าไม่แตกต่าง เพราะรัฐบาลพยายามแก้ปัญหาได้ดีแล้ว สิ่งที่ทำเป็นไปตามกฎระเบียบ ข้อบังคับทุกอย่าง รองลงไปร้อยละ 29.63 เห็นว่าแตกต่างโดย มองว่ารัฐบาลมีอำนาจและมีกำลังในมือสามารถทำอะไรกับประชาชนก็ได้
นอกจากนี้ ร้อยละ 62.96 เห็นว่าครอบครัวไทยท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองมีความเห็นไม่แตกต่างกัน เพราะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์วุ่นวายของบ้านเมืองเหมือนกัน ร้อยละ 37.04 เห็นว่าแตกต่าง เพราะความคิดเห็นและมุมมองเกี่ยวกับการเมืองไม่เหมือนกัน เมื่อถามว่าครอบครัวไทย มีความคิดเห็นต่อการชุมนุมประท้วง ที่แตกต่างกันหรือไม่พบว่าร้อยละ 74.08 เห็นว่าไม่แตกต่างเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนให้บ้านเมืองอย่างมาก ร้อยละ 25.92 ระบุว่าแตกต่าง คือ มองว่าเป็นสิทธิส่วนตัวที่สามารถทำได้ ส่วนคำถามว่ามีความเห็นต่อรัฐบาลในการควบคุมและปราบปรามผู้ประท้วงแตกต่างกันหรือไม่พบว่าร้อยละ 70.37 เห็นว่าไม่แตกต่าง เพราะรัฐบาลพยายามแก้ปัญหาได้ดีแล้ว สิ่งที่ทำเป็นไปตามกฎระเบียบ ข้อบังคับทุกอย่าง รองลงไปร้อยละ 29.63 เห็นว่าแตกต่างโดย มองว่ารัฐบาลมีอำนาจและมีกำลังในมือสามารถทำอะไรกับประชาชนก็ได้
