พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันการดูแลสถานการณ์การชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลัก ทหารเป็นเพียงผู้ช่วยเจ้าพนักงาน รวมทั้งจะดำเนินการตามแผนเดิมที่มีอยู่แล้ว ส่วนในเรื่องของมือที่ 3 เจ้าหน้าที่ได้มีการติดตามประเมินสถานการณ์เฝ้าดูอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกัน โดยใช้กล้องวงจรปิดเข้ามาช่วยในการทำงาน
ทั้งนี้ กองทัพจะไม่ใช้วิธีการหรืออำนาจอื่นในการแก้ไขหรือควบคุมดูแลสถานการณ์ หากมีความรุนแรงเกิดขึ้นจะดำเนินการตามกรอบของกฎหมาย รวมถึงจะไม่มีการนำพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มาบังคับใช้ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีไม่มีแนวคิดที่จะนำกฎหมายดังกล่าวมาบังคับใช้เช่นกัน พร้อมทั้งเชื่อว่าสถานการณ์น่าจะสามารถควบคุมดูแลได้
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่มีทหารเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีที่มีการลอบสังหารนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี ว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร ผลการสอบสวนจะสาวถึงบุคคลใดก็ตาม ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ กองทัพจะไม่ใช้วิธีการหรืออำนาจอื่นในการแก้ไขหรือควบคุมดูแลสถานการณ์ หากมีความรุนแรงเกิดขึ้นจะดำเนินการตามกรอบของกฎหมาย รวมถึงจะไม่มีการนำพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มาบังคับใช้ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีไม่มีแนวคิดที่จะนำกฎหมายดังกล่าวมาบังคับใช้เช่นกัน พร้อมทั้งเชื่อว่าสถานการณ์น่าจะสามารถควบคุมดูแลได้
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่มีทหารเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีที่มีการลอบสังหารนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี ว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร ผลการสอบสวนจะสาวถึงบุคคลใดก็ตาม ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
