นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เพราะมีการแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน (ปปง.) และไม่ตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ว่า ที่ผ่านมา ตนยังไม่เคยได้ยินว่านายกรัฐมนตรี แทรกแซงการทำงานของ ปปง.อย่างไร เป็นการพูดไปเรื่อยของพรรคเพื่อไทย ส่วนกรณีการแต่งตั้งบอร์ด ป.ป.ท. ในฐานะที่ ป.ป.ท.อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีการพิจารณามาตลอด แต่ล่าช้าเนื่องจากผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้แต่งตั้งเป็นบอร์ด ป.ป.ท. ต่างปฏิเสธ ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว มีการสรรหาบุคคลที่จะเสนอชื่อให้เป็นบอร์ด ป.ป.ท. 16 คน แต่มีการปฏิเสธกลับมาถึง 15 คน ทำให้ไม่สามารถนำรายชื่อเสนอได้ เพราะบอร์ด ป.ป.ท.ต้องการ 6 คน เมื่อถึงสมัยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีการเลือกบุคคลขึ้นมา 6 คนเลย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้เลือก ตนจึงเห็นว่าไม่เหมาะสมที่รัฐมนตรีจะเป็นผู้เลือกบอร์ดเอง 6 คน น่าจะต้องทาบทามบุคคลที่มีความเหมาะสมอีก 6 คน เพื่อนำเสนอรายชื่อเข้าสู่กรรมการสรรหา และให้กรรมการเป็นผู้เลือก
นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า ตลอดเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พยายามสรรหาผู้สมัครเข้าคัดเลือกเป็นบอร์ด ป.ป.ท. แต่เมื่อทาบทามไปแล้วต่างก็ปฏิเสธทำให้เดินหน้าไม่ได้ และอยู่ระหว่างสรรหา
สำหรับตำแหน่งกรรมการ หรือบอร์ด ป.ป.ท ผู้ที่จะเป็นกรรมการ ป.ป.ท.ได้ต้องลาออกจากการสังกัดพรรคการเมือง และต้องไม่เป็นบอร์ดหรือกรรมการให้กับบริษัทเอกชนหรือรัฐอีก
นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า ตลอดเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พยายามสรรหาผู้สมัครเข้าคัดเลือกเป็นบอร์ด ป.ป.ท. แต่เมื่อทาบทามไปแล้วต่างก็ปฏิเสธทำให้เดินหน้าไม่ได้ และอยู่ระหว่างสรรหา
สำหรับตำแหน่งกรรมการ หรือบอร์ด ป.ป.ท ผู้ที่จะเป็นกรรมการ ป.ป.ท.ได้ต้องลาออกจากการสังกัดพรรคการเมือง และต้องไม่เป็นบอร์ดหรือกรรมการให้กับบริษัทเอกชนหรือรัฐอีก