นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกับชาวไทยมุสลิม ภายหลังประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามเสร็จ ถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ในวันพุธ ที่ 8 เมษายนนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะเชิญคณะทูตานุทูตที่ประจำการในประเทศไทยเพื่อแจ้งสถานะของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นผู้ต้องหาหนีคดี และจะใช้โอกาสนี้ แจ้งให้ต่างประเทศทราบด้วย ว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปพำนักก็ขอให้ประสานกับประเทศไทยเพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย แต่ถ้าประเทศใดให้ที่พักพิง ก็เชื่อว่าจะกระทบความสัมพันธ์กับไทย ส่วนประเทศใดที่ยังไม่มีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ก็จะประสานให้มีช่องทางในการส่งตัวกลับ โดยเบื้องต้นได้ประสานผ่านสถานทูตไทยในต่างประเทศเป็นการภายใน แล้ว อาทิ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน นิการากัว
ขณะเดียวกัน ได้ประสานไปยังประเทศกัมพูชา หลังมีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปพำนัก
ส่วนความคืบหน้าการพิจารณาหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ล่าสุดคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เชิญเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศไปปรึกษาหารือเพื่อขอให้กระทรวงการต่างประเทศถอนเรื่อง แต่ก็ได้ปฎิเสธไป และขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาส่งเรื่องกลับมาว่าพิจารณาอย่างไรต่อไป ส่วนจะเพิกถอนหนังสือเดินทางหรือไม่ ตนเองมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ซึ่งจะต้องปรึกษานายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีประกอบด้วย
ขณะเดียวกัน ได้ประสานไปยังประเทศกัมพูชา หลังมีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปพำนัก
ส่วนความคืบหน้าการพิจารณาหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ล่าสุดคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เชิญเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศไปปรึกษาหารือเพื่อขอให้กระทรวงการต่างประเทศถอนเรื่อง แต่ก็ได้ปฎิเสธไป และขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาส่งเรื่องกลับมาว่าพิจารณาอย่างไรต่อไป ส่วนจะเพิกถอนหนังสือเดินทางหรือไม่ ตนเองมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ซึ่งจะต้องปรึกษานายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีประกอบด้วย
