กองทัพอิสราเอลระดมยิงกระสุนปืนใหญ่ ซึ่งมีส่วนประกอบของฟอสฟอรัสขาว เข้าใส่พื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นในเขตกาซา ระหว่างการสู้รบรุนแรงครั้งล่าสุด จนเป็นเหตุให้พลเรือนบาดเจ็บล้มตายอย่างไม่จำเป็น องค์การ "ฮิวแมนไรต์วอตช์" แถลงวันพุธ (25)
องค์การด้านสิทธิมนุษยชนแห่งนี้ ซึ่งอ้างว่า การใช้ฟอสฟอรัสขาวของอิสราเอลเป็นหลักฐานของการก่ออาชญากรรมสงคราม บอกว่า กองทัพยิวรู้ทั้งรู้ว่า อาวุธร้ายดังกล่าวเป็นอันตรายกับพลเรือน แต่ "จงใจหรือบ้าบิ่น" ระดมยิงกระสุนปืนใหญ่ซึ่งมีส่วนประกอบของฟอสฟอรัสขาว จนถึงวันสุดท้ายของปฏิบัติการโจมตีฉนวนกาซา ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม ลากยาวจนถึงวันที่ 18 มกราคม โดยถือเป็นการละเมิดกฎหมายการทำสงคราม
องค์การด้านสิทธิมนุษยชนแห่งนี้กล่าวว่า อิสราเอล "ฝ่าฝืนกฎหมาย" โดยใช้อาวุธร้ายแรงระดมยิงใส่พื้นที่ซึ่งมีพลเรือนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ตลอดจนทำลายล้างสาธารณูปโภคต่าง ๆ ของพลเรือน อาทิ โรงเรียน, ตลาด, คลังเก็บเสบียงช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ตลอดจนโรงพยาบาล
องค์การด้านสิทธิมนุษยชนแห่งนี้ ซึ่งอ้างว่า การใช้ฟอสฟอรัสขาวของอิสราเอลเป็นหลักฐานของการก่ออาชญากรรมสงคราม บอกว่า กองทัพยิวรู้ทั้งรู้ว่า อาวุธร้ายดังกล่าวเป็นอันตรายกับพลเรือน แต่ "จงใจหรือบ้าบิ่น" ระดมยิงกระสุนปืนใหญ่ซึ่งมีส่วนประกอบของฟอสฟอรัสขาว จนถึงวันสุดท้ายของปฏิบัติการโจมตีฉนวนกาซา ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม ลากยาวจนถึงวันที่ 18 มกราคม โดยถือเป็นการละเมิดกฎหมายการทำสงคราม
องค์การด้านสิทธิมนุษยชนแห่งนี้กล่าวว่า อิสราเอล "ฝ่าฝืนกฎหมาย" โดยใช้อาวุธร้ายแรงระดมยิงใส่พื้นที่ซึ่งมีพลเรือนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ตลอดจนทำลายล้างสาธารณูปโภคต่าง ๆ ของพลเรือน อาทิ โรงเรียน, ตลาด, คลังเก็บเสบียงช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ตลอดจนโรงพยาบาล