แผนการของรัฐบาลสิงคโปร์ที่จะอนุญาตให้จ่ายเงินชดเชยแก่ผู้บริจาคอวัยวะในร่างกายได้ ถูกคัดค้านอย่างหนักจากพวกส.ส. ซึ่งกลัวว่าจะทำให้พวกแรงงานต่างชาติใช้เป็นช่องทางปลดหนี้ของตนในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
กฎหมายปัจจุบันของสิงโปร์ห้ามไม่ให้มีการจ่ายเงินแก่ผู้บริจาคอวัยวะในร่างกาย แต่รัฐบาลสิงคโปร์กำลังเสนอแก้ไขกฎหมายดังกล่าวโดยจะอนุญาตให้จ่ายเงินชดเชยให้กับผู้บริจาคไตได้
ทว่าประเด็นดังกล่าวมีการอภิปรายกันในรัฐสภาสิงคโปร์ในวันจันทร์ (23) โดยฮาลิมาห์ ยาคอบ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลกล่าวว่าพวกแรงงานต่างชาติ "จะกลายเป็นศูนย์รวมผู้บริจาคอวัยวะซึ่งจะถูกใช้ไปในทางที่ผิด เพราะชาวต่างชาติที่ตกงานอาจสนใจอยากได้เงินชดเชยราว 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (6,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ) แทนที่จะกลับบ้านไปมือเปล่าโดยที่มีหนี้สินกองโตรอให้สะสางอยู่"
ลัมปินมิน ส.ส. อีกคนหนึ่งก็กล่าวว่าชาวต่างชาติ ซึ่งรวมทั้งชาวอินเดียและปากีสถานนั้นเตรียมพร้อมอยู่แล้วที่จะมาขายไตของพวกเขาในสิงคโปร์ ซึ่งต่อไปสิงคโปร์อาจกลายเป็นศูนย์กลางของ "การท่องเที่ยวเพื่อผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ" ลัมจึงเสนอว่าควรจัดให้มีบุคคลที่สามเข้ามามีส่วนในการเจรจาจ่ายเงินชดเชยดังกล่าวให้กับผู้บริจาค
กฎหมายปัจจุบันของสิงโปร์ห้ามไม่ให้มีการจ่ายเงินแก่ผู้บริจาคอวัยวะในร่างกาย แต่รัฐบาลสิงคโปร์กำลังเสนอแก้ไขกฎหมายดังกล่าวโดยจะอนุญาตให้จ่ายเงินชดเชยให้กับผู้บริจาคไตได้
ทว่าประเด็นดังกล่าวมีการอภิปรายกันในรัฐสภาสิงคโปร์ในวันจันทร์ (23) โดยฮาลิมาห์ ยาคอบ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลกล่าวว่าพวกแรงงานต่างชาติ "จะกลายเป็นศูนย์รวมผู้บริจาคอวัยวะซึ่งจะถูกใช้ไปในทางที่ผิด เพราะชาวต่างชาติที่ตกงานอาจสนใจอยากได้เงินชดเชยราว 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (6,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ) แทนที่จะกลับบ้านไปมือเปล่าโดยที่มีหนี้สินกองโตรอให้สะสางอยู่"
ลัมปินมิน ส.ส. อีกคนหนึ่งก็กล่าวว่าชาวต่างชาติ ซึ่งรวมทั้งชาวอินเดียและปากีสถานนั้นเตรียมพร้อมอยู่แล้วที่จะมาขายไตของพวกเขาในสิงคโปร์ ซึ่งต่อไปสิงคโปร์อาจกลายเป็นศูนย์กลางของ "การท่องเที่ยวเพื่อผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ" ลัมจึงเสนอว่าควรจัดให้มีบุคคลที่สามเข้ามามีส่วนในการเจรจาจ่ายเงินชดเชยดังกล่าวให้กับผู้บริจาค