นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้เตรียมมาตรการป้องกันไม่ให้การหักค่าหัวคิวเกิดขึ้น ด้วยการนำเช็กส่งให้ถึงมือผู้ประกันตนด้วยตนเอง โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงานทั้งหมดในการจ่ายเช็ก ซึ่งมีทั้งการไปจ่ายยังสถานประกอบการ 7,500 แห่ง ผู้ประกันตน 2,300,000 คน จ่าย ณ ที่ว่าการอำเภอ 800 แห่ง ผู้ประกันตน 1,070,000 คน และจ่าย ณ สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ จังหวัด รวมถึงศูนย์การค้า 2,700,000 คน
นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายเวลาให้ผู้ประกันตนสามารถมารับเช็กได้ที่สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ จังหวัด นอกเหนือจากวันที่สำนักงานประกันสังคม หรือ สปส.นัดหมาย ภายในระยะเวลา 90 วัน โดย สปส. จะขยายเวลาการทำงานของเจ้าหน้าที่ ถึงเวลา 20.00 น. ของทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกันตน รวมทั้งจะมีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 60 ชุด เพื่อจัดส่งเช็กให้ถึงมือผู้ประกันตนตามที่ร้องขอ โดยเบื้องต้นต้องเป็นสถานประกอบการที่มีผู้มีสิทธิรับเช็กประมาณ 200 คนขึ้นไป สามารถแจ้งความจำนงได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02- 5261959 ส่วนผู้ประกันตนที่ไม่สะดวกในการเดินทางมารับเช็กเอง สามารถมอบอำนาจให้มารับเช็คแทนได้ แต่ต้องให้ผู้ที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น ผู้ใหญ่บ้าน ลงลายมือชื่อรับรอง
นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายเวลาให้ผู้ประกันตนสามารถมารับเช็กได้ที่สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ จังหวัด นอกเหนือจากวันที่สำนักงานประกันสังคม หรือ สปส.นัดหมาย ภายในระยะเวลา 90 วัน โดย สปส. จะขยายเวลาการทำงานของเจ้าหน้าที่ ถึงเวลา 20.00 น. ของทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกันตน รวมทั้งจะมีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 60 ชุด เพื่อจัดส่งเช็กให้ถึงมือผู้ประกันตนตามที่ร้องขอ โดยเบื้องต้นต้องเป็นสถานประกอบการที่มีผู้มีสิทธิรับเช็กประมาณ 200 คนขึ้นไป สามารถแจ้งความจำนงได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02- 5261959 ส่วนผู้ประกันตนที่ไม่สะดวกในการเดินทางมารับเช็กเอง สามารถมอบอำนาจให้มารับเช็คแทนได้ แต่ต้องให้ผู้ที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น ผู้ใหญ่บ้าน ลงลายมือชื่อรับรอง